“Zyu 2” ผลพวงจากความสำเร็จของ Power Rangers ที่ไม่มีให้เห็นในซูเปอร์เซนไท

หมายถึง… จูเรนเจอร์ภาคสองเหรอ?

มองเผินๆ จะจำกัดความแบบนั้นก็ได้นะ แต่จริงๆแล้วไอ้คำว่า “Zyu 2” เนี่ย เป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการที่แฟนๆ พาวเวอร์เรนเจอร์ท่านหนึ่งได้ใช้เรียกฟุตเทจการต่อสู้ของเหล่าหนุ่มสาวทั้งหกในชุดนักรบไดโนเสาร์ ที่ไม่ได้ตัดมาจากซีรีส์ของจูเรนเจอร์แต่อย่างใด…

คืองี้ จูเรนเจอร์มีทั้งหมด 50 ตอน และพอซาบันเอนเตอร์เทนเมนท์ตัดเอาเฉพาะฉากที่จำเป็นมาใช้ในพาวเวอร์เรนเจอร์ซีซั่นแรก ก็จะเหลือฟุตเทจให้ใช้ได้ถึง 40 ตอนเท่านั้น(ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า อ้าว… ก็ตัดมาใช้แค่ฉากแอ็คชั่น ทำไมถึงมีจำนวนตอนไม่เท่ากับของญี่ปุ่น? ใจเย็นๆ ตรงนี้เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง) เขาเลยวางแผนให้มันจบอยู่แค่นั้นแหละ แต่พอฉายไปเรื่อยๆ เรตติ้งดันดีมากเป็นประวัติการณ์ จนทางช่อง Fox Kids ได้ขอร้องให้ทางซาบันเพิ่มจำนวนตอนเข้าไปอีก ถ้าผมเป็นคุณเฮล์ม ซาบัน คงรู้สึกอุทานในใจว่า “อิหยังวะ?” คือ… ใช้ฟุตเทจที่ญี่ปุ่นให้มาหมดแล้ว… จะเอาฉากต่อสู้ที่ไหนมาทำตอนเพิ่มอีกเล่า!! แต่ก็นะ… เบื้องบนคงเห็นแล้วแหละว่าเหล็กกำลังร้อนได้ที่เลย ก็ต้องหาทางตีให้เข้ารูปให้ได้อ่ะ สุดท้าย ทางซาบันก็ไม่ได้ติดขัดอะไร และได้ตัดสินใจติดต่อไปยังโตเอะ ให้ช่วยถ่ายทำฉากต่อสู้ของจูเรนเจอร์เพิ่มหน่อย

(ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝั่งค่ายหนังจากอเมริกามาวานให้ทำแบบนี้ เพราะใน 40 ตอนแรก ก็มีการให้ทางญี่ปุ่นถ่ายทำฟุตเทจของเหล่าตัวร้ายเพิ่มเติม และแฟนๆ พาวเวอร์เรนเจอร์ก็ได้เรียกมันว่า “Zyu 1.5”)

*Robogoat หนึ่งใน 25 ปีศาจที่ถูกทำขึ้นใหม่เพื่อใช้ในพาวเวอร์เรนเจอร์โดยเฉพาะ*

จากนั้น ทางโตเอะก็ได้ถ่ายฟุตเทจเพิ่มตามคำขอ ในส่วนของปีศาจนั้นก็ได้ใช้ตัวที่ถูกออกแบบและสร้างชุดขึ้นใหม่โดยบริษัท เรนโบว์ โปรดัคชั่น จำนวน 25 ตัว แต่ละตัวก็จะต้องถูกเอามาเข้าฉาก ทั้งที่สู้กับคนและก็สู้กับหุ่น ก่อนจะส่งม้วนวิดีโอข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังซาบัน จนทางนั้นสามารถปิดจบซีซั่นแรกของพาวเวอร์เรนเจอร์ ด้วยจำนวน 60 ตอนไปได้อย่างสวยงาม โดยใช้ฟุตเทจของปีศาจที่ถ่ายเพิ่มเข้ามาแค่ 15 ตัวเท่านั้น

ส่วนฟุตเทจของอีก 10 ตัวที่เหลือ ก็ถูกนำมาใช้ใน 13 ตอนแรกของซีซั่นสองเนี่ยแหละ…

หลังจากสร้างชุดปีศาจใหม่แล้ว ทางโตเอะก็ต้องนำมันมาถ่ายฉากต่อสู้ โดยเฉพาะฉากสู้กับหุ่น Megazord ที่ต้องถ่ายทำในญี่ปุ่นเท่านั้น

ถ้าใครที่ชอบดูทั้งฝั่งของพาวเวอร์เรนเจอร์และซูเปอร์เซนไท จะสังเกตได้ถึงความแตกต่างระหว่างฟุตเทจจากจูเรนเจอร์ และ Zyu 2 อย่างชัดเจน เพราะอย่างหลังนั้นถูกถ่ายทำขึ้นมาเพื่อใช้กับพาวเวอร์เรนเจอร์โดยเฉพาะ รายละเอียดต่างๆ (โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในชุดแปลงร่าง) จะอิงตามคาแร็คเตอร์ของฝั่งนั้นโดยตรง ทั้งท่วงท่าของเยลโล่เรนเจอร์ที่มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น ฉากเข้าคู่กันของกรีนเรนเจอร์และพิงค์เรนเจอร์เหมือนที่ทอมมี่และคิมเบอร์ลี่เขากุ๊กกิ๊กกัน ไปจนถึงระบบการต่อสู้ต่างๆ ของทั้งหกคนที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ผิดกับฟุตเทจก่อนหน้านี้ที่ดึงมาจากซีรีส์ของเหล่านักรบไดโนเสาร์จากยุคโบราณ

โดยปกติ ในซีรีส์จูเรนเจอร์ ดราก้อนเรนเจอร์และพูเทร่าเรนเจอร์ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เมื่อมีการถ่ายทำฟุตเทจสำหรับพาวเวอร์เรนเจอร์โดยเฉพาะ จึงทำให้กรีนเรนเจอร์กับพิ้งค์เรนเจอร์ต้องมีโมเมนท์ในชุดต่อสู้ด้วย

แต่เรื่องชวนปวดหัวของการผลิตพาวเวอร์เรนเจอร์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อทางซาบันดันอยากจะให้หนุ่มสาวผู้มากพรสวรรค์แห่งโรงเรียนแองเจิ้งกรู๊ฟเปลี่ยนยานใหม่ จากไดโนซอร์ส หรือชุดยานของจูเรนเจอร์ มาเป็นธันเดอร์ซอร์ส หรือชุดยานของไดเรนเจอร์แทน คราวนี้คนที่ต้องกุมขมับจึงเป็นคนตัดต่อ ที่ต้องนำฟุตเทจปีศาจร่างยักษ์ซึ่งกำลังสู้กับหุ่นไดจูจิน มาผสมกับฟุตเทจของหุ่นไดเรนโอ เพื่อให้ได้มาซึ่งฉากต่อสู้ระหว่างปีศาจจาก Zyu 2 กับไดเรนโอ จากคลิปที่แปะไว้ด้านล่างนั้น จะเห็นได้ว่า แทบไม่มีช็อตไหนที่สองตัวนี้จะอยู่ร่วมเฟรมเดียวกันเลย แต่ถ้าจำเป็นต้องมีจริงๆ ก็จะใช้เป็นฉากหุ่นโดนระเบิด ซึ่งคนตัดต่อจะเพิ่มระเบิดให้ฟุ้งมากกว่าปกติ เพื่อปิดไม่ให้คนเห็นว่าจริงๆ แล้วในวิดีโอมันคือไดจูจินนั่นเอง

*จริงๆ แล้ว ฟุตเทจการต่อสู้ของ* Pirantishead ร่างยักษ์นั้นจะต้องสู้กับไดจูจิน แต่เนื่องจากทางซาบันอยากจะเปลี่ยนหุ่นตัวใหม่ จึงทำให้ต้องใส่เอฟเฟคระเบิดให้ฟุ้งกว่าปกติเพื้อปิดไม่ให้ใครเห็นว่าเป็นไดจูจิน (ผมแคปมาอาจจะเห็นไม่ชัด งั้นเพื่อนๆ ลองเพ่งดูเอาเองในวิดีโอแล้วกันนะครับ)

อีกอย่าง เมื่อฟุตเทจ Zyu 2 ได้หมดลง แต่ก็ต้องทำฉายอีกกว่า 30 ตอนถึงจะครบซีซั่น บวกกับการจะให้เหล่าตัวละครหลักเปลี่ยนไปใส่ชุดต่อสู้ของไดเรนเจอร์ทุกคนเลยก็ไม่ได้ เพราะด้วยเหตุผลทางด้านการขายของเล่น จึงทำให้ทางซาบันต้องถ่ายทำฉากต่อสู้ด้วยตัวเองมากขึ้น โดยให้ทางโตเอะส่งคอสตูมที่จำเป็นต้องใช้อย่าง ชุดของฝั่งฮีโร่(ซึ่งก็มีชุดของคิบะเรนเจอร์จากซีรีส์ไดเรนเจอร์ด้วย) ชุดปีศาจซึ่งก็มีทั้งจาก Zyu 2 และไดเรนเจอร์ เว้นก็แต่ชุดหุ่นยักษ์ ที่สามารถใช้ฟุตเทจจากทางญี่ปุ่นได้อยู่

(เชื่อว่าโตเอะคงคิดในใจประมาณว่า “อั๊วมูฟออนจากจูเรนเจอร์ไปเป็นชาติแล้ว ถ้าพวกลื้ออยากได้ฉากต่อสู้ของจูเรนเจอร์เพิ่มอีกก็ถ่ายเอาเองละกัน…)

*คุณเจฟ พรูอิท (Jeff Pruitt) ผู้ดูแลฉากต่อสู้ของพาวเวอร์เรนเจอร์*

โดยข้อมูลที่ได้จากคุณเจฟ พรูอิท ที่เป็นสตั๊นท์และดูแลฉากต่อสู้ในซีรีส์พาวเวอร์เรนเจอร์จนถึงตอนที่ 40 ของซีซั่นสอง เขาได้เล่าถึงกระบวนการถ่ายทำฉากต่อสู้ด้วยตัวเองว่า นอกจากจะต้องใช้ปีศาจซ้ำไปซ้ำมาเพื่อลดต้นทุนแล้ว พวกเขาจะถ่ายกันจนตะวันตกดิน เป็นอย่างนี้ 5 วันต่อสัปดาห์ และแม้จะมีการใช้คิบะเรนเจอร์ในซีซั่นนี้ก็เถอะ แต่ก็ไม่สามารถใช้ฟุตเทจจากญี่ปุ่นได้มากเท่าไหร่ เพราะบางฉากสูทแอคเตอร์ดันตัวเล็กเกินกว่าจะทำให้คนดูเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับเจสัน เดวิด แฟรงค์ ดังนั้น ฉากต่อสู้ของไวท์เรนเจอร์จึงต้องถ่ายทำใหม่หมดเช่นกัน

แม้จะมีการใช้ฟุตเทจคิบะเรนเจอร์จากซีรีส์ไดเรนเจอร์ก็เถอะ แต่ฉากต่อสู้ส่วนใหญ่ของไวท์เรนเจอร์ก็ต้องถ่ายทำขึ้นใหม่อยู่ดี

อีกอย่างที่คุณเจฟเคยพูดไว้ก็คือ ไม่ใช่ทุกช่วงของฟุตเทจจากทางโน้น ที่จะใช้กับพาวเวอร์เรนเจอร์ได้ เพราะกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเนื้อหาในโทรทัศน์ หรือวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและอเมริกามันแตกต่างกันมาก สำหรับโทคุซัทสึของญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 20 การที่ปีศาจจะถูกของมีคมฟันจนเป็นแผลฉกรรณ์ให้เห็นอย่างชัดเจน จะสามารถออกอากาศได้ แต่ในอเมริกา แม้ผู้รับผลกระทบจะเป็นอมนุษย์ก็ไม่สามารถทำได้ ก็ต้องตัดออก ไม่ก็ถ่ายขึ้นมาใหม่ อีกกรณีนึงที่คล้ายกันก็คือ จะมีตอนนึงของจูเรนเจอร์ที่เหล่าสมาชิกได้ถูกเหล่าร้ายจับมัดกับไม้กางเขน ซึ่งก็เป็นอีกซิกเนเจอร์ของโทคุซัทสึเลยก็ว่าได้ แม้ว่าเด็กญี่ปุ่นจะเห็นแล้วรู้สึกเฉยๆ แบบ อืม… มันก็คือการพันธนาการอย่างนึงนี่หว่า แต่สำหรับอเมริกา(และน่าจะทั้งซีกโลกตะวันตก) มันดันอิงกับเรื่องศาสนาไง จึงทำให้ทางซาบันต้องถ่ายฉากนั้นใหม่ โดยเปลี่ยนจากการถูกมัดกับกางเขนให้เป็นเสาตามปกติ

เพราะอย่างนี้ไงครับ ฟุตเทจ 50 ตอนของจูเรนเจอร์เลยเหลือไว้ให้ทำพาวเวอร์เรนเจอร์แค่ 40 ตอนเท่านั้น…

สำหรับบางฉากที่อาจไม่เหมาะกับการฉายในซีกโลกตะวันตก ก็จะต้องถ่ายทำขึ้นใหม่ให้เหมาะสม อย่างการพันธนาการกับไม้กางเขนในจูเรนเจอร์ (บน) เมื่อมาอยู่ในพาวเวอร์เรนเจอร์ก็ต้องเปลี่ยนเป็นมัดกับเสาแทน (ล่าง)

และแม้ว่าการดันทุรังใช้ชุดออกศึกของจูเรนเจอร์จะจบลงแค่ซีซั่นสาม ก่อนจะขึ้นซีซั่นใหม่ด้วยการยอมเปลี่ยนชุดไปใช้ของโอเรนเจอร์ เพื่อให้สามารถใช้ฟุตเทจจากทางญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องถ่ายทำเพิ่มมากนัก แต่ Zyu 2 รวมไปถึงฉากใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากทางซาบันเองก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำให้พาวเวอร์เรนเจอร์มีกลิ่นอายที่แตกต่างออกไปจากซูเปอร์เซนไท แถมยังทำให้ภาพลักษณ์ของเหล่าขบวนการห้าสีมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นับว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่ได้มีแค่เอาฉากต่อสู้ของเขามาใส่กับฉากนักแสดงฝรั่งแล้วเอามาฉายทุกๆ สัปดาห์แน่นอน