[J-HERO.COM REVIEW] Kamen Rider ZI-O แด่งานเลี้ยงส่งที่น่าจดจำที่สุดของเฮเซไรเดอร์

บทสรุปแห่งเฮเซไรเดอร์คนสุดท้าย

ชื่อเรื่อง : 仮面ライダージオウ (Kamen Rider ZI-O)
ปีที่ฉาย : 2 กันยายน 2018 – 25 สิงหาคม 2019
จำนวนตอน : 49 ตอน
นำแสดงโดย : โอคุโนะ โซ, โอชิดะ กาคุ, โอฮาตะ ชิเอริ, เคย์สุเกะ วาตานาเบะ, คอนโนะ อายากะ, อิตางากิ ริฮิโตะ, คาเนะซากิ เคนทาโร่ และ นามาเสะ คัทสึฮิสะ
กำกับโดย : ทาซากิ ริวตะ, นาคาซาวะ โชอิจิโร่, ซากาโมโต้ โคอิจิ, โมราตะ ซาโตชิ, ชิบาซากิ ทาคายูกิ, คามิโฮริอุจิ คัทสึยะ, ยามากุจิ เคียวเฮย์ และ ทามูระ นาโอกิ
เขียนบทโดย : ชิโมะยามะ เคนโตะ, โมริ โนบุฮิโระ และ อิโนะอุเอะ โทชิกิ
ผลิตโดย : TV ASAHI และ TOEI Company

เรื่องย่อ :

I W A E ! ! !

“โทคิวะ โซวโก” เด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้มีความฝันอยากจะเป็น “ราชา” ได้มาพบกับสาวน้อยจากโลกอนาคต “สึคุโยมิ” ก่อนที่เธอจะบอกกับโซวโกว่า เค้าจะกลายเป็นสุดยอดจอมมารผู้ชั่วร้ายในอีก 50 ปีข้างหน้า

ระหว่างที่กำลังงงกับสิ่งที่สึคุโยมิได้เล่าไปนั้น “เมียวโคอิน เกซ” ชายผู้แปลงร่างเป็นไรเดอร์จากโลกอนาคตได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อสังหารโซวโก ด้วยเหตุการณ์ความวุ่นวายจากน้ำมือของผู้ปั่นป่วนแห่งห้วงเวลา “ไทม์แจคเกอร์” ทำให้โซวโกเลือกที่จะแปลงร่างเป็น “คาเมนไรเดอร์จิโอ” ตามคำชี้แนะของ “วอซ” ชายผู้มาจากอนาคตเช่นเดียวกัน รวมไปถึงการร่วมมือกับเกซเพื่อต่อสู้และช่วยเหลือกันเพื่อปกป้องช่วงเวลาของเหล่าเฮเซไรเดอร์อีกด้วย

ตำนานการเดินทางไปยังห้วงเวลาของเหล่าเลเจนท์ไรเดอร์ได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการตามไขปริศนาของสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้า ว่าชายหนุ่มผู้อ่อนโยนอย่างโซวโกนั้นจะกลายเป็นจอมมารผู้ชั่วร้ายได้อย่างไร …

ภาพรวม :

ดำเนินเรื่อง + คอนเซปท์ที่คล้ายกัน อีกทั้งได้คนนี้กลับมา ไม่แปลกที่จะถูกแซวว่าเป็น ดีเคด SS2

ซีรีส์สุดท้ายแห่งยุคเฮเซที่ดึงเอาคอนเซปท์ของ “มิติเวลา” มาใช้ ทำให้ตัวเนื้อหามีความสามารถมากพอที่จะก้าวไปยังช่วงต่าง ๆ ของเฮเซคาเมนไรเดอร์ซีรีส์ได้อย่างอิสระ ประกอบกับความตั้งใจของเหล่าทีมงานที่ตามตัวเหล่านักแสดงจากคาเมนไรเดอร์ในซีรีส์นั้น ๆ ให้ปรากฏตัวในเรื่องเพื่อสนองความคาดหวังของผู้ชม ไม่นับการเซอร์ไพรส์อะไรหลาย ๆ อย่างจนทำให้โลกออนไลน์มีเรื่องให้คุยไปอีกเป็นอาทิตย์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคาเมนไรเดอร์จิโอถึงกลายเป็น Hot Topic ในแฮชแทคของชาวเน็ตหลังจบการฉายในแต่ละตอน

อีกคอนเซปท์หนึ่งที่ถูกยกมาใช้ก็คือเรื่องของ “การเลือกทางเดินของตน” ที่ตัวละครนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกในการเป็นจอมมารของโซวโก ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและโชคชะตาของเกซ รวมไปถึงความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเกิดขึ้นมาได้ของสึคุโยมิ ทำให้โครงสร้างของเนื้อหามีความหนักแน่น พร้อมที่จะให้นักแสดงเก่าเข้ามาเสริมคุณค่าได้ตลอดเวลา

เสน่ห์หลัก ๆ นอกจากแขกรับเชิญที่เรียกกลับมาได้แล้ว ส่วนหนึ่งคือความชัดเจนในคาแรคเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้น แม้อาจจะมีปมบางอย่างที่ทำให้ผู้ชมต้องเกาหัวถึงที่มาที่ไป แต่เพราะเอกลักษณ์ของตัวละคร ก็ทำให้เหตุผลเหล่านั้นไม่ค่อยถูกยกมาพูดถึงสักเท่าไร

ตอนพิเศษหลังจบตอน เน้นคอนเซปท์ “เผาตัวเองเจ็บน้อยสุด”

อ่อ … อีกเรื่องที่ถูกใจผมก็คือตอนพิเศษ 「仮面ライダージオウ補完計画」 ที่จับเอานักแสดงและแขกรับเชิญมานินทา แซะ และเผยถึงความลับหลังกองถ่ายบางอย่างที่แฟน ๆ ไม่เคยรู้มาก่อน โดยมีคอนเซปท์คือ “เล่นตัวเองเจ็บน้อยสุด” เพราะบางเรื่องนั้นแทบไม่น่าเชื่อว่าทีมงานจะปล่อยออกมาให้เราดูกันได้ #ฮา

ในส่วนของเนื้อหา ยอมรับว่าช่วงแรก “น่าอึดอัด” เพราะการดำเนินเรื่องด้วยการตั้งโจทย์ไว้เพียงไม่กี่ข้อ ก่อนจะให้ตัวละครเดินไปตามเส้นทางเพื่อเปิดปมใหม่ตาม Chapter ของแต่ละคน โดยมีเหล่าเลเจนท์ไรเดอร์คอยโผล่ออกมาเป็นตัวแปรในแต่ละช่วง ตรงส่วนนี้ทำให้แฟน ๆ ถึงกับถกเถียงกันเรื่องของเส้นเวลา ความเป็นเหตุผล และความเป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงกับเนื้อหาหลักของเลเจนท์ไรเดอร์คนนั้น ๆ

ทว่าเมื่อเราติดตามมาถึง Chapter สุดท้าย (ช่วงตอนที่ 41 เป็นต้นไป) ปริศนาที่สร้างเอาไว้ก็คลายปมออกทีละจุด จนทำให้รู้สึกได้ว่าประเด็นที่เคยถกเถียงกันในช่วงต้นของซีรีส์มันมีทางออกได้ทั้งหมด และนำไปสู่ความเข้าใจถึงการกระทำในตัวละครทุกคน ซึ่งระหว่างการเดินทางเพื่อตามหาคำตอบนั้น ผู้ชมก็เพลิดเพลินกับอดีตนักแสดงนำที่กลับมาสู่หน้าจอแบบที่เราไม่รู้ตัว

สรุปสั้น ๆ คือระหว่างที่ทุกคนกำลังงงกับเนื้อเรื่อง พวกเราก็สนุกไปกับนักแสดงรับเชิญจนไม่รู้ตัวเลยว่าเรื่องราวค่อย ๆ เฉลยอะไรออกมาทีละนิด พอถึงองก์สุดท้ายก็ … ตู้ม ! ! ! เข้าใจละว่าที่ผ่านมามันคืออะไรนั่นเอง

Rider Time : Kamen Rider Shinobi

จุดที่น่าชื่นชมอีกอย่างของผู้สร้างก็คือ “การปรับตัวเข้ากับโลกโซเชียล” ไม่น่าเชื่อว่า Meme หรือมุกบางอย่างที่ชาวเน็ตเล่นกันในทวิตเตอร์ ถูกทีมงานดึงไปใช้แบบเอาฮา อีกทั้งการเอาคอนเซปท์ของไรเดอร์ที่คิดไว้ (แต่ไม่ได้ทำ) มาปัดฝุ่นทำใหม่ในรูปแบบตอนพิเศษเพื่อออกฉายบนแชนแนล TTFC ของตน ก็ถือว่าเป็นการตลาดเชิงรุกที่ต้องปรบมือให้ดัง ๆ เลยทีเดียว

ก็เล่นล้อว่าเป็นพ่อลูกกัน สุดท้ายจับมาสลับชุดใส่ใน Rider Time : Kamen Rider Ryuki ซะเลย

แม้ว่าการดึงเอานักแสดงเก่ากลับมาจะเป็นจุดที่แข็งที่สุดของซีรีส์นี้ ทว่าจุดด้อยก็ยังมีให้เห็นอยู่ประปราย ทั้งการดำเนินเรื่องที่ไปเร็วเกินกว่าจะอธิบายบางช่วงบางตอนให้เข้าใจ หรือการตัดทอนเนื้อหาบางส่วนออกเพื่อให้พอดีกับสล็อตเวลาฉาย เรียกได้ว่าโคตรขัดใจแฟน ๆ สายเสพเนื้อหาครับ จึงไม่แปลกที่จะมีผู้ชมหลายท่านออกมาบ่นว่าเรื่องราวมันไม่ค่อยสนุกในหลายโอกาส

แกรนด์จิโอที่กลายเป็น Talk of The Town สำหรับผู้ชมไปแล้ว

สรุป :

ยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์ก็นี่ล่ะ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบติดตามเนื้อหาแบบพลิกผันได้ตลอดเวลา หรือรักที่จะชมความลุ่มลึกของการดำเนินเรื่อง คาเมนไรเดอร์จิโออาจจะต้องใช้เวลาสำหรับคุณในการติดตามนิดหน่อย … เพราะคุณต้องเข้าใจคอนเซปท์รวมไปถึงเป้าหมายของตัวละครก่อนนั่นเอง

แต่สำหรับคนที่อยากเห็นการกลับมาของเลเจนท์ไรเดอร์แล้ว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแฟน ๆ เฮเซไรเดอร์ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาครับ