ในมหานครโตเกียวที่แสนกว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างใช้ชีวิตเพื่อก้าวไปสู่ฝันหรือบรรลุเป้าหมายของตัวเอง เคยสงสัยมั้ยครับว่าแต่ละคนเขาใช้ชีวิตอยู่กับที่พักของตนเอง พร้อมกับสิ่งที่ตัวเองแบกรับไว้อย่างไร?
วันนี้ครับ เราจะพาทุกคนมาพบกับห้องขนาด 8 เสื่อ (13.2 ตารางเมตร) ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยของสะสมมากมายเกี่ยวกับอุลตร้าแมนจนแทบไม่เห็นผนัง ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าราวๆ 15 นาที ซึ่งเจ้าของห้องนั้นเป็นคุณแม่วัย 35 ปี ผู้ทำงานอยู่ในบริษัทรับออกแบบแห่งหนึ่ง เธอใช้ชีวิตทั้งกินและนอนอยู่ภายในห้องนี้กับลูกชายตัวน้อยของเธอ
“อุลตร้าแมน” ถือว่าเป็นสิ่งที่ทั้งเธอและก็ลูกชายชื่นชอบเหมือนๆ กัน จึงไม่แปลกที่ของสะสมเกี่ยวกับยอดนักรบแห่งแสงและสัตว์ประหลาดคู่ปรับ โดยเฉพาะซอฟท์ไวนิลกว่า 400 ตัวจะถูกจัดวางอยู่เต็มไปหมด และยังไม่นับของสะสมอื่นๆ ที่เก็บไว้ในชั้นอีกด้วยนะ
และทำไมเธอถึงชื่นชอบอุลตร้าแมนได้ขนาดนี้กันนะ? ลองอ่านเรื่องราวของเธอดูนะครับ
“เมื่อสามปีที่แล้ว สามีของฉันได้ออกไปจากบ้านอย่างกระทันหัน และก็ไม่กลับมาอีกเลย”
แม้ว่าการกระทำของเขาจะดูเลวร้ายมากก็เถอะ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่ากำลังทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมา เธอเริ่มทำงานทันทีหลังเรียนจบ และต่อให้มีอีกชีวิตอาศัยอยู่ในท้อง ก็ยังคงทำงานหนักจนถึงวันคลอด แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะทำงานหาเงินไปพร้อมกับเลี้ยงเจ้าตัวน้อยด้วยตัวคนเดียว เพราะไหนจะค่าเช่าบ้าน และก็ค่าเลี้ยงลูกอีก จนกระทั่งหกเดือนต่อมา สามีของเธอยืนกรานที่จะไม่กลับไปหา บวกกับเงินเก็บของเธอเริ่มน้อยลง เธอจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่แทน
ถึงกระนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่พูดเลย เพราะต่อให้ค่าเช่าจะไม่หนักหนามากก็เถอะ แต่ด้วยความเป็นคุณแม่ลูกติด ทำให้เหล่าบรรดาเจ้าของห้องพักต่างปฏิเสธเพราะกังวลว่าจะปล่อยปละเรื่องการทำความสะอาดห้อง ต่อให้สุดท้ายเธอและลูกจะได้มาอาศัยอยู่ในห้องนี้ก็เอถะ แต่คุณแม่อุลตร้าก็ยังมีอีกเรื่องที่ตัวเองยังกังวลอยู่
เพราะด้วยความที่โรงเรียนอนุบาลของลูกชายนั้นมีแต่คุณครูที่เป็นผู้หญิง พอเขากลับบ้านก็อยู่แต่กับคุณแม่ เลยทำให้เธอรู้สึกกังวลว่าการที่ลูกน้อยของเธอต้องเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอแต่ผู้หญิงจะส่งผลกระทบอะไรกับเขาบ้าง?
จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า “ซูเปอร์ฮีโร่”
“ฉันได้เจอมันโดยบังเอิญ บนดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้ากับลูกชาย เขาเล่าให้ฉันฟังว่านั่นเป็นที่พูดถึงในหมู่เพื่อนๆ แถมกำลังดังมากๆ ฉันคิดว่ามันน่าจะดีสำหรับลูกชายฉัน ฉันว่าฉันเริ่มติดใจไปกับลูกแล้วล่ะ”
จากวันนั้น เธอก็ได้พาลูกชายมาดูการแสดงของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ที่จัดขึ้นในโรงละครแห่งหนึ่งทุกสัปดาห์ แม้ว่าจะเป็นการแสดงชุดเดิมๆ ก็ตาม ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการที่เธอชื่นชอบในศาสตร์ของการแสดงละครเวทีมาตั้งแต่วัยรุ่นด้วยเช่นกัน โดยฮีโร่ที่เธอชื่นชอบมากที่สุดนั่นก็คือ “อุลตร้าแมน” เพราะความที่ต้องยืนหยัดต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเพียงลำพัง เช่นเดียวกับเธอที่ต้องแบกรับภาระต่างๆ ในชีวิตด้วยตัวคนเดียว จึงทำให้เธอรู้สึกประทับใจในวีรกรรมของเหล่ายอดนักรบแห่งแสงนั่นเอง ทุกๆ ครั้งที่เธอได้ยินเสียงเด็กๆ ที่มาดูการแสดงพากันส่งเสียงให้กำลังใจยอดมนุษย์คนโปรด ก็ทำให้คุณแม่อุลตร้ารู้สึกน้ำตาซึม พร้อมกับตั้งปณิธานว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เหมือนกับฮีโร่บนเวที
เวลาที่เธอได้เห็นลูกชายตื่นเต้นกับการแสดง มันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้…
จากที่เคยต้องกลุ้มใจทุกครั้งเวลาที่คิดถึงเรื่องการหย่าหรือการโยกย้าย แต่เมื่อเธอได้รู้จักกับซูเปอร์ฮีโร่คนโปรด กลับมีแรงฮึดสู้ และตั้งใจจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเหมือนที่เหล่ายอดมนุษย์มุ่งมั่นปราบสัตว์ประหลาด
ส่วนชีวิตการทำงานของเธอนั้น ถึงจะชื่นชอบละครเวที่แต่ก็ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงแต่อย่างใด เพราะชื่นชอบในการทำงานเบื้องหลังเสียมากกว่า ถึงแม้ว่าเธอจะมุ่งมั่นกับงานแค่ไหน แต่ก็เปลี่ยนงานบ่อยใช่เล่นเหมือนกัน จนกระทั่งคุณแม่อุลตร้าเริ่มมีลูกน้อยเข้ามาในชีวิต เธอก็ได้ฉุกคิดขึ้นมาว่า จะต้องหางานที่ตัวเองสามารถทำได้ในระยะยาวให้ได้ เพราะเจ้าตัวเล็กนั้นมีแค่เธอคนเดียว และสุดท้าย เธอก็สามารถทำงานปัจจุบันของเธอได้นานถึง 10 ปี เลยทีเดียว
แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงและของสะสมมันจะไม่ใช่น้อยๆ แต่มันก็เป็นราคาที่เธอยอมจ่าย เพราะมันทำให้เธอมีกำลังใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ ทุกๆ เช้า ทั้งสองแม่ลูกจะยืนดูภาพของอุลตร้าแมน ก่อนจะไปส่งเจ้าตัวน้อยที่โรงเรียน และไปทำงานต่อด้วยความสุขอยู่เสมอ
“แม้ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานในวันธรรมดา และไปชมการแสดงของเหล่าฮีโร่ในวันหยุด แต่ฉันก็รู้สึกเอ็นจอยไปกับมันอย่างเต็มเปี่ยม เหมือนช่วงก่อนที่ลูกชายจะเกิดเลย”
เรื่องราวของคุณแม่อุลตร้าทำให้เราได้เห็นว่า ซูเปอร์ฮีโร่ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองแค่ในจินตนาการเท่านั้น แต่พลังของพวกเขายังถูกส่งต่อให้ผู้คนในโลกแห่งความจริง ไว้ใช้ต่อสู้กับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตด้วยเช่นกัน หากใครที่รู้สึกว่าตัวเองท้อแท้กับอะไรสักอย่าง ลองคิดถึงฮีโร่คนโปรดที่พยายามต่อสู้กับความชั่วร้ายอย่างสุดความสามารถ และลองฮึดสู้แบบสุดความสามารถแบบพวกเขาดูกันนะครับ
ที่มา : toyokeizai.net