เชื่อว่าแฟน Tokusatsu ซีรีส์หลายคน น่าจะได้รับชมผลงานจากมันสมองของ อ.อิชิโนะโมริ โชทาโร่ ผู้สร้าง ผู้ให้กำเนิด และผู้วางโครงร่างของเฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง Kamen Rider, Super Sentai รวมไปถึง Metal Heroes แต่ก็เชื่อว่าส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้ ว่าตัวของอาจารย์เองนั้นก็มีผลงานที่ร่วมมือกันสร้างกับ Toei Studio ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังเด็ก ๆ และทุกคนในครอบครัวอย่างซีรีส์ที่มีชื่อชุดว่า 東映不思議コメディーシリーズ (Toei Fushigi Comedy Series)
Toei Fushigi Comedy Series เกิดจากความร่วมมือกันของ Toei Studio และ Ishinomori Pro. ที่สร้างเรื่องราวโดยเน้นไปยังความน่ารักของตัวละคร และเนื้อหาที่ลึกลับน่าติดตาม โดยธีมหลักส่วนมากจะอ้างอิงถึงนักสืบ สาวน้อยเวทมนต์ และหุ่นยนต์ อาจจะรวมไปถึงการ Featuring ตัวละครกับค่ายอื่นอย่างเช่นอุลตร้าแมน เป็นต้น
ออกอากาศในช่วง 1980s ถึง 1990s ความยาวของแต่ละซีรีส์ไม่แน่นอน โดยวัดจากเรทติ้งผู้ชมในขณะนั้น รวมไปถึงความทุ่มทุนของสปอนเซอร์ เหตุเพราะของเล่นและของสะสมที่ปรากฏในเรื่องมีน้อยกว่าปัจจุบัน หรือบางเรื่องอาจจะไม่มีเลย แต่ก็เน้นไปที่กลุ่มสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคเสียมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น คฑาแปลงร่าง ชุดคอสเพลย์ เครื่องประดับ การ์ดสะสม หรือพวกไลเซ่นติดซองขนม
เรามาลองทำความรู้จักกันไปทีละเรื่องเลยครับผม
ตัวอย่างของสะสมจากซีรีส์ 魔法少女ちゅうかなぱいぱい!
1. ロボット8ちゃん (Robot 8-chan)
ออกอากาศ 4 ตุลาคม 1981 – 26 กันยายน 1982
จำนวนทั้งสิ้น 52 ตอน
ผลงาน Toei Fushigi Comedy Series เรื่องแรกในตระกูลนี้ สร้างโดย อ.อิชิโนะโมริ ร่วมกับ Toei Studio โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กประถม ออกอากาศทาง Fuji TV และเป็นงานหลังจาก Ganbare !! Robocon ถึงแปดปีด้วยกัน โดยการออกอากาศในช่วงแรกทำเรทติ้งเฉลี่ยไปแค่ 2.8% เท่านั้น ทว่าหลังจากปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง เช่นเสียงพากย์ตัวฮัจจัง เปลี่ยนตัวนักแสดงหลักของเรื่อง เปลี่ยน OP ใหม่ ทำหน้ากากของตัวละครที่ชื่อเมโลดี้ให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และตอบจดหมายจากแฟนคลับท้ายตอน ก็พบว่าทำเรทติ้งไปได้ถึง 16.8% เลยทีเดียว
เรื่องย่อ:
ฮารุโระ ทาเครุ ได้เข้าช่วยเหลือ 8 Chan “ฮัจจัง” จากการตามล่าของหน่วยควบคุมหุ่นยนต์ และเค้าได้ของให้เจ้าหุ่นหน้าตาเหมือนลูกโอ๊คตัวนี้เข้ามาอยู่ในห้องทดลองของพ่อเค้า ไม่ใช่แค่การเอาตัวมาช่วยเหลืองานบ้าน แต่ความป่วนของเจ้าหุ่นยังช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
2. バッテンロボ丸 (Baten Robo Maru)
ออกอากาศ 3 ตุลาคม 1982 – 25 กันยายน 1983
จำนวนทั้งสิ้น 51 ตอน
ผลงานต่อยอดความสำเร็จจาก ロボット8ちゃん (Robot 8-chan) ผลิตและโปรดิวซ์โดยทีมงานชุดเดิมทั้งหมด ธีมการออกแบบนั้นแทบจะถอด Ganbare !! Robocon มาเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโหมด หรือการแสดงอารมณ์ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบของสีหน้า โดยเดิมทีนั้นจะให้ใช้ชื่อว่า “กาฉะโรโบ เคตัน”
เรื่องย่อ:
“โรโบมารุ” หุ่นจากต่างดาวกำลังลาดตระเวนเพื่อปกป้องจักรวาล แต่อยู่ดี ๆ ดันมาถูกลูกเบสบอลที่ตีออกมาโดย “อันโนะ นานาโกะ” ลูกสาวเจ้าของร้านถ่ายภาพอูมิโนะ จากนั้นโรโบมารุเลยต้องอาศัยอยู่บนโลก และปกป้องทุกคนจากหุ่นยนต์เกเรทั้งหลาย
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
3. ペットントン (Pettonton)
ออกอากาศ 2 ตุลาคม 1983 – 26 สิงหาคม 1984
จำนวนทั้งสิ้น 41 ตอน
ผลงานชุดที่สามของซีรีส์ในสารบบนี้ ได้แรงบัลดาลใจมากจากภาพยนตร์เรื่อง E.T (1982) ของ Steven Spielberg ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากธีมของหุ่นยนต์กลายมาเป็นเพื่อนรักจากต่างดาวและของวิเศษ ซึ่งทีมงานพยายามทำขนาดของ Pettonton ให้ใกล้เคียงกับเด็ก ๆ มากที่สุด และยังเน้นไปที่ความสนุกสนานเฮฮามากกว่าความตื่นเต้นเช่นสองเรื่องก่อนหน้า ภาพรวมของซีรีส์โกยเรทติ้งไปได้ 16%
เรื่องย่อ:
สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ถูกมนุษย์ต่างดาวทิ้งเอาไว้ในสวนหลังบ้านของครอบครัวฮาตะ พวกเค้าจึงเก็บมันมาเลี้ยงและตั้งชื่อว่า Pettonton ซึ่งเจ้าเพื่อนรักต่างดาวตัวเขียวนี้มีของวิเศษที่จะทำให้ผู้ชมเฮฮาได้ตลอดเวลาของการรับชม เช่นไม้เท้าย้อนเวลา หรือบ่วงมิตรภาพ เป็นต้น
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
4. どきんちょ!ネムリン (Dokincho! Nemurin)
ออกอากาศ 2 กันยายน 1984 – 31 มีนาคม 1985
จำนวน 31 ตอน
ผลงานลำดับสี่ของซีรีส์ชุดนี้ และเป็นครั้งแรกที่เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่เด็กผู้หญิงเป็นหลัก โดยตัวละครมีต้นแบบจากการ์ตูนตาหวานซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น และนี่ยังเป็นงานเขียนบทเรื่องแรกในโทคุซัทสึซีรีส์ของ “อิโนะอุเอะ โทชิกิ” มือเขียนบทที่ฝากผลงานเอาไว้กับ เจ็ทแมน, คาเมนไรเดอร์อากิโตะ, คาเมนไรเดอร์ไฟซ์ และคาเมนไรเดอร์คิบะ
เหตุที่จำนวนตอนฉายสั้นเป็นเพราะตุ๊กตาจากซีรีส์ได้รับความนิยมมาก จนผู้ผลิต (Popy) สั่งออเดอร์จากโรงงานเป็นตำนวนมหาศาล แต่เนื่องจากโรงงานไม่สามารถผลิตได้ทันตามกำหนด สายการผลิตนี้จึงขาดทุนจนนำไปสู่การตัดจบซีรีส์เพียง 7 เดือนเท่านั้น
เรื่องย่อ:
โออิวะ มาโกะ เด็กหญิงชั้น ป.4 ที่ถูกแฟนหักอกมาหมาด ๆ ในขณะที่เธอกำลังเผารูปแฟนทิ้ง ก็ดันไปจุดไฟปลุกเทพธิดาทั้งสาม เนมูริน, วิเวียน และ มอนโรว ให้ตื่นจากการหลับไหลกว่า 800 ปีขึ้นมาจนได้ จากนั้นเรื่องราวความเกรียนของสาวน้อยช่างฝันบวกกับความสดของเทพธิดาทั้งสามก็เริ่มต้นขึ้น
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
5. 勝手に!カミタマン (Katte ni! Kamitaman)
ออกอากาศ 7 เมษายน 1985 – 30 มีนาคม 1986
จำนวน 51 ตอน
ตามรอยสูตรสำเร็จของ 2 เรื่องก่อนหน้าที่เอาชนะใจเด็ก ๆ ด้วยธีมของสัตว์เลี้ยง / ตุ๊กตา โดยใส่ความเป็น Parody ของหนังแปลงร่างซึ่งเป็นผลงานของ อ.อิชิโนะโมริลงไป และยังทำตัวของตุ๊กตาให้สื่ออารมณ์ได้มากขึ้นอีกด้วย
แต่กลับกันทางด้านของเล่นนั้นกลับไม่มีการผลิตของสะสมออกมาเลย จะมีก็เพียงแค่สินค้าติดตามถ้วยชามหรือซองขนมเท่านั้น เหตุเพราะความผิดพลาดในสายการผลิตจากซีรีส์ก่อนหน้า ทำให้ตัวเลขงบประมาณของการผลิตสินค้าจึงติดลบ อีกทั้งไม่สามารถหาโรงงานผลิตได้ตามสเปคที่ต้องการ จึงทำให้ Kamitaman เป็นโทคุซัทสึเพียงไม่กี่เรื่องที่หาของสะสมได้ยากมาก
เรื่องย่อ:
“เนโมโตะ ชินสุเกะ” นักเรียนชั้น ป.3 ที่อกหักและกำลังถ่ายเอ็มวีริมทะเล ได้พบกับบะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูปปริศนาที่นั่น พร้อมกับข้อความที่เขียนว่า “ห้ามเทน้ำร้อนลงไป” แต่ด้วยความกวนตีนของชินสุเกะจึงเอากลับบ้านไปเติมน้ำร้อนและกะว่าจะกินแก้เซ็ง ทว่าเมื่อเปิดฝาออกมาดันกลายเป็น “คามิต้าแมน” สิ่งมีชีวิตลึกลับที่สามารถดลบันดาลอะไรก็ได้ คามิต้าแมนจึงกลายเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านไปโดยปริยาย แถมยังมีพลังเสกให้ชินสุเกะแปลงร่างเป็น “เนโมโตะแมน” ฮีโร่ที่ไม่มีพลังอะไรเลย แถมยังโดนกระทืบฟรีทุกครั้งอีก แต่เค้าก็สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความสามารถแบบป่วน ๆ ของคามิต้าแมนแทนซะงั้น
- Comment ส่วนตัวของผู้เขียน – เรื่องนี้เท่าที่ดูมาฮาน้ำตาไหลที่สุดแล้วครับ
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
6. もりもりぼっくん (Morimoribokkun)
ออกอากาศ 6 เมษายน 1986 – 28 ธันวาคม 1986
จำนวน 39 ตอน
การกลับมาใช้ธีมหุ่นยนต์อีกครั้ง โดยเป็นการนำเอาแนวคิดที่ อ.อิชิโนะโมริเคยสร้างเอาไว้ตอนโรโบคอนมาใช้ โดยอิงคอนเซปต์แบบเดียวกับกับหลายเรื่องก่อนหน้า คือเน้นสนุกสนานเฮฮา สอนให้เด็กรู้จักกินผัก รวมไปถึงรักษากฎจราจร ทว่าการนำของเก่ามารีไซเคิลนั้นไม่ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป เรทติ้งของซีรีส์ดังกล่าวนั้นย่ำแย่มากเสียจนต้องตัดจบภายใน 39 ตอนแบบงง ๆ
เรื่องย่อ:
ดร. จิรัน อัจริยะผู้มีความฝันจะสร้างสังคมที่มนุษย์อยู่ร่วมกับหุ่นยนต์และสัตว์ได้อย่างเสรี เค้าได้ประดิษฐ์หุ่นขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงกำหนดสเปคของ AI แต่ละตัวเอาไว้ ที่สำคัญคือพวกมันสามารถใช้ผักผลไม้เป็นแหล่งพลังงานได้อีก
ตัวของ ดร. เองนั้นก็ได้สร้างหุ่นขึ้นมาตัวหนึ่งเพื่ออยู่ร่วมกับ นากายามะ ฟูมิยะ เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ที่กำลังเติบโตเพื่อตามหาความหมายของชีวิต และเรื่องราวในแต่ละวันที่มีมนุษย์ หุ่นยนต์ และสัตว์เดินสองเท้า ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ถือกำเนิดขึ้น
*เรื่องนี้ยังไม่มีให้ชมทาง TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
7. おもいっきり探偵団 覇悪怒組, Omoikkiri Tantei Dan Haado Gumi
ออกอากาศ 11 มกราคม 1987 – 27 ธันวาคม 1987
จำนวน 50 ตอน
หลังจากมุกตันไปหมดแล้วทั้งหุ่นยนต์และเพื่อนรักมหัศจรรย์ มาในซีรีส์ลำดับที่เจ็ด ทางผู้สร้างจึงเบี่ยงเข็มมาทางแก๊งเยาวชนนักสืบแทน แม้โทนเรื่องจะดูหนักและภาพที่สื่อออกมามีความรุนแรงมากหากเทียบกับสมัยนี้ แต่กระนั้นความนิยมกลับพุ่งอย่างมหาศาลพร้อม ๆ กับยอดจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล็อตเรื่องนั้นดัดแปลงมาจากนักเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนเจ้าของนามปากกา “รันโป เอโดคาว่า” ชื่อนี้ใครอ่านโคนันคงจะรู้จักนั่นแล โดยดึงเนื้อหาบางส่วนมาจาก 怪人二十面相 (จอมปีศาจ 20 หน้า)
เรื่องย่อ:
เด็กหนุ่มห้าคนหลากความสามารถ ทั้งเรื่องการเรียน กีฬา รวมไปถึงการแฮคกิ้ง ประกอบไปด้วย ฮิโรชิ, ซาโทรุ, ซูสุมุ, ทาเคโอะ และ ยาสุโกะ พวกเค้าก่อตั้งกลุ่มเยาวชนนักสืบ “ฮาโดะกุมิ” ขึ้นมาเพื่อไล่ล่าจอมโจร 20 หน้า “มาเท็นโระ” จากอาชญากรรมมากมายที่พวกเค้าก่อขึ้น โดยมาเท็นโระจะส่งคำท้ามาให้ฮาโดะกุมิแก้ไขปริศนาอยู่เรื่อย ๆ จนเป็นที่มาของการดำเนินเรื่องนั่นเอง
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
8. じゃあまん探偵団 魔隣組 (Jaman Tantei Dan Maringumi)
ออกอากาศ 10 มกราคม 1988 – 1 มกราคม 1989
จำนวน 50 ตอน
สานต่อความสำเร็จ (อีกแล้ว) หลังจากทำซีรีส์เยาวชนยอดนักสืบจนเรทติ้งพุ่งกระฉูด เรื่องต่อมาก็ยังคงความเป็นนักสืบอยู่เช่นเคย ทีมงานได้เพิ่มตัวละครเด็กผู้หญิงเข้าไป และเน้นความเป็นโทคุซัทสึให้มากขึ้นด้วยตัวละครที่แปลงร่างได้ อีกทั้งยังเป็นงานแสดงแรกของ “อิโตะ มาโกโตะ” สูทแอคเตอร์ระดับตำนานที่สวมชุดไรเดอร์คนที่ 2 ในช่วงเฮเซเฟสแรก
ในปี 2019 เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ นำแสดงโดยสองนักแสดงจาก Kamen Rider Gaim ได้แก่ ซาโนะ กาคุ และ ทาคาซึกิ มาฮิโระ
เรื่องย่อ:
เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ห้าคนจากสมาชิกของชมรมนักสืบเรือดำน้ำเยอรมัน U-BOAT ได้ก่อตั้งทีม “มารีนกุมิ” ขึ้นเพื่อตามล่า “จิโกมะ” จอมโจรแห่งศตวรรษ โดยอาศัยอุปกรณ์ที่ชื่อว่า “จิโกมะดีเทกเตอร์” เข้ามาสืบคดี
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
9. 魔法少女ちゅうかなぱいぱい! (Mahō Shōjo Chūka na Pai Pai!)
ออกอากาศ 9 มกราคม 1989 – 9 กรกฎาคม 1989
จำนวน 26 ตอน
หุ่นยนต์ เพื่อนรักต่างมิติ นักสืบ เริ่มอิ่มตัวกันหมดแล้ว ธีมเดิมซ้ำซากจึงไม่ถูกนำมาใช้อีกครั้ง และคราวนี้ถือว่าเป็นการแหวกเนื้อหาเดิมทั้งหมด โดยทีมงานได้นำเอา “สาวน้อยเวทมนต์” มาเป็นแกนหลักของเรื่องแบบ Live Action อย่างเต็มตัว
“โอซาว่า นัทสึกิ” ไอดอลสาวดาวรุ่งพุ่งแรงในขณะนั้นถูกวางตัวให้เป็นอาหมวยไป๋ไป๋ สาวน้อยเวทมนต์จากเมืองจีนที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นตัวละครหญิงพลังวิเศษคนแรกของค่ายนี้ และเธอก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เพราะความน่ารักสดใสของเธอ ทำเอาเรทติ้งถล่มทลาย ไม่นับยอดขายของเล่นตามร้านนั้นแทบขายไม่ทันเลยทีเดียว
แต่เพราะความโด่งดังนั้นได้เริ่มทำลายตัวของนักแสดงเอง เหตุเพราะตอนนั้นโอซาว่าเองก็รับงานแสดงดราม่าซีรีส์ทาง Fuji TV อีกเรื่องหนึ่งไว้ แม้จะช่วยดึงกระแสให้ไป๋ไป๋มีชื่อเสียง แต่คำวิจารณ์ที่มองว่าการนำเอาธีมของประเทศจีนมาใช้ จะเหมาะสมกับเยาวชนญี่ปุ่นหรือไม่อย่างไร รวมไปถึงคิวงานที่เริ่มแน่นจนตัวโอซาว่าเองต้องชั่งใจแล้วว่าเธอจะเลือกเดินบนเส้นทางไหนกันแน่ ระหว่างซีรีส์สำหรับเด็กที่ต้องทำตัวน่ารักสดใส กับดราม่าซีรีส์ที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของเธอเอง
สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะวางมือจากบทของไป๋ไป๋แบบกระทันหัน เล่นเอาทีมงานเหวอแดกกันถ้วนหน้า เบื้องหลังนั้นอาจจะมีมากกว่านั้น แต่จากที่ค้นคว้ามาก็พบเพียงว่าเธอมีปัญหากับตารางเวลา รวมไปถึงคำวิจารณ์ของผู้ชมบางกลุ่มที่มองว่าการเอาเรื่องจีน ๆ มาให้เด็กญี่ปุ่นดูนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งข่าวว่าท้องกับผู้จัดการส่วนตัวก็ยังมี
ซีรีส์นี้จึงหยุดไว้เพียง 26 ตอนเท่านั้น
และหลังจากเวลาผ่านไปสิบกว่าปี โอซาว่า นัทสึกิ ได้สร้างความฮือฮากับวงการบันเทิงอีกครั้ง เพราะเธอได้ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงหนังผู้ใหญ่จากค่าย Alice Japan ช่วงปี 2007 – 2009 จำนวน 11 เรื่องด้วยกัน
เรื่องย่อ:
จักรพรรดิโกเมะ แห่งราชอาณาจักรปีศาจจีน (ในโลกต่างมิติ) อยากได้ตัว “ไป๋ไป๋” สาวน้อยน่ารักที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่ม “เรย์มอนด์” ทว่าในขณะที่กำลังจะสวมแหวนนั้นจักรพรรดิโกเมะได้สาปให้เรย์มอนด์กลายเป็นบะหมี่ราเมง และหมายจะเอาตัวไป๋ไป๋มาเสียเอง
เรย์มอนด์ที่กลายเป็นบะหมี่ (ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอก) ก็สลัดลูกชิ้นนารูโตะทิ้งเพื่อเปิดทางให้ตัวเค้าและไป๋ไป๋หนีออกมา แต่ในระหว่างที่เข้ามายังโลกมนุษย์นั้น เรย์มอนด์กับเธอก็พลัดจากกัน ทำให้ไป๋ไป๋ต้องออกตามหาคนรัก (ที่กลายเป็นราเมงไม่มีลูกชิ้น) และหาทางจัดการแก้แค้นจักรพรรดิโกเมะที่ทำให้เธอและคนรักต้องมาประสบกับโชคชะตาแบบนี้
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
10. 魔法少女ちゅうかないぱねま! (Mahō Shōjo Chūka na Ipanema!)
ออกอากาศ 23 กรกฎาคม 1989 – 24 ธันวาคม 1989
จำนวน 23 ตอน
หลังจากซีรีส์ไป๋ไป๋ที่นางเอกได้เทกองถ่ายไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เรื่องนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาแบบเร่งรีบสุด ๆ โดยใช้ตัวละครเก่าบางตัวจากเรื่องก่อนหน้ามาดำเนินเรื่องต่อ และปิดฉากสาวน้อยเวทมนต์ไปแบบงดงาม
เรื่องย่อ:
โลกแห่งราชอาณาจักรปีศาจจีน (ที่เดียวกับไป๋ไป๋) สาวน้อยจากตระกูลผู้มั่งคั่ง “อิปาเนมะ” ถูกพี่น้องตระกูลแยงซีใส่ความจนกลายเป็นสถานะล้มละลาย และวันสำเร็จการศึกษาของโรงเรียนเวทมนต์เธอก็ดันจบไม่ได้เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม แถมพ่อกับแม่ก็สาปสูญไปหลังจากเกิดเรื่อง ด้วยความที่เธอสามารถใช้พลังเวทมนต์จากของวิเศษทั้ง 8 อย่างได้ เธอจึงมายังโลกมนุษย์เพื่อศึกษาชีวิต ตามหาพ่อแม่ และหาทางเอาคืนเหล่าพี่น้องตระกูลแยงซี
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
11. 美少女仮面ポワトリン (La Belle Fille Masquée Poitrine)
ออกอากาศ 7 มกราคม 1990 – 30 ธันวาคม 1990
จำนวน 51 ตอน
เส้นทางของซีรีส์ชุดนี้ได้มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง โดยมุ่งเป้ามาที่สาวน้อยพลังมหัศจรรย์ แม้หลายคนจะทักว่าเรื่องนี้มีอิทธิพลมาจากเซลเลอร์มูนหรือไม่อย่างไร แต่การสร้างนั้นเกิดก่อนยัยซาลาเปาคู่ถึงสองปีเลยทีเดียว
โปรดิวเซอร์และทีมงานเกือบทั้งหมดยกมาจากเมทัลฮีโร่ซีรีส์ และคาเมนไรเดอร์แบล็ค ฉากเปิด OP เลยมีการนำรถสปอร์ตมาให้นางเอกถ่ายทำเพื่อเปิดตัวอีกด้วย
ปังแค่ไหนถามเรทติ้งคนดู เพราะซัดไปได้ 15% แถมตัวนักแสดงอย่าง “นากาชิมะ ยูโกะ” สามารถแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการกับซีรีส์ดังกล่าวได้อีก
เอาเป็นว่านี่คือความสำเร็จอีกครั้งหลังจากเจอเรื่องแย่ ๆ ของเหล่าผู้สร้างในรอบสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเวลาผ่านไปยี่สิบกว่าปี Poitrine ได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใน Kamen Rider Wizard (ภาค Movie Taisen Ultimatum) แม้ว่าคุณนากาชิมะจะไม่ได้ปรากฏตัวในหนัง แต่เธอเองก็มารับหน้าที่เปิดตัวในงานแถลงข่าวแทน
เรื่องย่อ:
มุราคามิ ยูโกะ สาวน้อยมัธยมปลายได้พบเจอกับพระเจ้าในวันปีใหม่ และเธอได้รับมอบพลังจนกลายเป็น Poitrine เพื่อแลงร่างและต่อสู้กับพลังด้านลบของจักรวาลที่ทำให้ผู้คนก่ออาชญากรรมแปลก ๆ
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
12. 不思議少女ナイルなトトメス (Fushigi Shōjo Nairu na Totomesu)
ออกอากาศ 6 มกราคม 1991 – 29 ธันวาคม 1991
จำนวน 51 ตอน
และเช่นเคยครับ หากเรื่องไหนดี เรื่องไหนดัง Toei Studio ไม่รอช้าที่จะสานต่อ และ Thutmose คือคำตอบ พวกเค้าอาศัยความโด่งดังของกระแส Tutankhamun และธีมอียิปต์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในตอนนั้นมาจับเป็นแกนเรื่อง แม้ในช่วงแรกจะดำเนินเรื่องเหมือนเป็นซีรีส์แนวสืบสวน แต่สุดท้ายก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแนวมาให้เหมือนกับ Poitrine เพื่อดึงผู้ชมให้กลับมา
เรื่องย่อ:
“นาคาจิมะ ซานาเอะ” เดินทางไปไหว้หลุมศพของบรรพบุรุษเพื่อแจ้งว่าเธอกำลังจะย้ายบ้าน แต่เธอดันไปทำให้ผนึกของครอบครัวแตกจนเหล่าวิญญานทั้ง 51 ดวงของแม่น้ำไนล์หลุดออกมา และความจริงได้เผยอีกว่าบรรพบุรุษของเธอนั้นคือผู้ที่ผนึกวิญญานทั้งหมดเอาไว้ เธอจึงต้องรับหน้าที่ตามเอาพวกเค้าทั้งหมดกลับมาด้วยพลังของ Thutmose
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
13. うたう!大龍宮城 (Utau! Dai Ryūgūjō, Sing! Great Ryugujo)
ออกอากาศ 5 มกราคม 1992 – 27 ธันวาคม 1992
จำนวน 51 ตอน
Poitrine หยิบเอาธีมฝรั่งเศสมาใช้ ส่วน Thutmose ก็เป็นอียิปต์ และในเรื่องล่าสุด ทีมงานก็กลับมาใช้นิทานญี่ปุ่นเป็น Base ในการออกแบบกับ Urashima Taro เท่านั้นยังไม่พอ พวกเค้ายังสร้างความแปลกใหม่ด้วยการทำให้มันเป็น Musical Series ที่ตัวละครอยู่ ๆ ก็ร้องเพลงและเต้นแบบไม่ต้องอาศัยหลักการและเหตุผลใด ๆ เข้าใจว่าได้อิทธิพลจากอนิเมชั่นของดิสนีย์ที่เริ่มแผ่เข้าไปในความนิยมของผู้ชม ณ ช่วงเวลานั้นล่ะครับ แม้ดูจะเป็นของแปลกใหม่ แต่เรทติ้งกลับดิ่งลงเหว เหลือแค่ 10.1% เท่านั้น (เรื่องก่อนหน้า 13%)
เรื่องย่อ:
“อุราชิมะ ทาโร่” เด็กเกรียนประถมที่โดดเรียนขึ้นรถแทกซี่จนไปเจอกับเจ้าหญิงแห่งวังมังกร “โอโตะฮิเมะ” ซึ่งเธอกำลังประสบปัญหาสภาวะมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและการกระทำบางส่วนของมนุษย์ใจบาป ทาโร่อาสาเป็นกาวใจเพื่อทำให้โอโตะฮิเมะเข้าใจมนุษย์ และทำให้มนุษย์เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น
ตอนนั้นเองพ่อกับแม่ของทาโร่กำลังจะย้ายไปทำงานที่ฟิจิ ทั้งสองเลยขอให้โอโตะฮิเมะเป็นผู้ปกครองขณะที่พวกเค้าไม่อยู่ โอโตะฮิเมะตกปากรับคำ แต่กลายเป็นว่าเธอดันไม่ใช่ชาววังมังกรคนเดียวที่ขึ้นมาอยู่บนโลก เพราะตอนนี้บ้านของทาโร่เต็มไปด้วยมิตรสหายของโอโตะฮิเมะที่ขึ้นมาสร้างความเฮฮาตลอด 51 ตอน
ชมฟรีทางแชนแนล TOEI TOKUSATSU WORLD OFFICIAL
14. 有言実行三姉妹シュシュトリアン (Yūgenjikkō Shisutāzu Shushutorian)
ออกอากาศ 10 มกราคม 1993 – 31 ตุลาคม 1993
จำนวน 42 ตอน
ผลงานชิ้นที่ 14 และเป็นชุดสุดท้ายของซีรีส์ Toei Fushigi Comedy Series ปิดตำนานของโทคุซัทสึที่ยึดพื้นที่เช้าวันอาทิตย์ก่อนการมาถึงของซูเปอร์เซนไตและเมทัลฮีโร่ กับธีมเรื่องที่เอาวัฒนธรรมใกล้ตัว ปัญหาสังคม ครอบครัว รวมไปถึงการดำเนินเรื่องที่คล้ายหนังแปลงร่างห้าสีในยุคดังกล่าวมาใช้
ความนิยมของเรื่องนี้ทำผลรวมไปได้เพียง 10.4% เท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่าเรื่องก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย แถมยอดจำหน่ายของเล่นก็ทำได้ต่ำเตี้ยเลียดิน ประกอบกับกระแสของเซลเลอร์มูนที่มาแรงแซงโค้งทุกสำนัก ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งปวง จึงทำให้ Shushutorian กลายเป็นซีรีส์ปิดตัวไปโดยปริยาย
แม้จะเป็นจุดจบ แต่ทีมงานก็ยังสร้างความฮือฮาด้วยการจับมือกับสตูดิโอคู่แข่งอย่าง Tsuburaya Pro. เพื่อนำเอาอุลตร้าแมนมาปรากฏตัวในตอนที่ 40 แถมไม่ได้มาเปล่า ๆ ยังเอานักแสดงนำ Kurobe Susumu มาแปลงร่างโชว์อีกต่างหาก
เหตุเพราะ Tsuburaya Kazuo ผู้จัดการฝ่ายขายของ Tsuburaya Pro. ณ เวลานั้นเป็นแฟนเดนตายของซีรีส์ชูชูโตเรี่ยน เค้าจึงเอ่ยปากแนะนำ Hikasa Jun โปรดิวเซอร์ของเรื่องให้ลองสร้างปรากฏการณ์ใหม่กับผู้ชม ด้วยการให้สามสาวพลังปีระกามาเจอกับอุลตร้าแมนดูบ้าง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวทาง Toei เพิ่งจะทำตอนพิเศษของ Kamen Rider vs Ultraman ไปหมาด ๆ โปรเจกต์ดังกล่าวเลยถือกำเนิดขึ้นด้วยความบังเอิญของฝ่ายขายที่ต้องการจะขายพอดี
และในปีต่อมา นักแสดงสาวผู้รับบทน้องคนสุดท้อง Hirose Satomi ก็มาปรากฏตัวในโทคุซัทสึซีรีส์ Ninja Sentai Kakuranger ที่แฟน ๆ รู้จักกันดีนั่นเอง
เรื่องย่อ:
ปี 1993 ตรงกับปีระกาพอดี วันปีใหม่ที่เหมือนทุกคนดูจะมีความสุข ยกเว้นบ้านยามาบูกิที่เต็มไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดเพราะพ่อกับแม่ของสามพี่น้องในบ้านนี้กำลังจะฟ้องหย่ากัน Yukiko, Tsukiko และ Hanako จึงไประบายด้วยการร้องคาราโอเกะ แต่บังเอิญดันไปเจอกับเทพเจ้าประจำปีระกาเข้าพอดี ซึ่งเทพเจ้าปีระกาก็ดันร้องคาราโอเกะข้ามวันข้ามคืนจนพลังหมด ทำให้ปีศาจประจำปีเกิดอาละวาด ร้อนจนเทพเจ้าปีระกาต้องขอร้องให้สามพี่น้องรับพลังของตนไปต่อสู้กับพวกมันแทน จึงกลายเป็นที่มาของสามพี่น้องชูชูโตเรี่ยน
เรื่องนี้ยังไม่มีให้ดูฟรี รอไปก่อนละกันเนอะ