“มาถึงไรเดอร์ยุคเฮเซเนี่ย ผมอยากจะทดลองอะไรใหม่ๆด้วย บางทีต่อไปอาจจะมีหุ่นยนต์ให้ไรเดอร์ขี่เล่นก็ได้ครับ แต่มติคงไม่ผ่านง่ายๆมั้ง (หัวเราะ)”
(ชิราคุระ ชินอิจิโร่ หนึ่งในโปรดิวเซอร์ที่มีบทบาทในซีรีส์เฮเซไรเดอร์หลายเรื่อง)
นี่คือคำพูดที่ชิระคุระซังเคยกล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ตอนสมัยที่แกทำมาสค์ไรเดอร์เดนโอ ซึ่งในขณะนั้นแกก็ได้พยายามที่จะหาความแปลกใหม่ให้กับมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ จนได้ไอเดียของ “รถไฟ” มาใช้กับไรเดอร์ ถึงแม้ว่าหลังจากจากการเสนอไอเดียครั้งแรก เบื้องบนจะเล็งเห็นว่ามันไม่เวิร์คเอาซะเลย แต่เมื่อให้โอกาสไอเดียนี้ได้เกิดขึ้น สุดท้ายมาสค์ไรเดอร์ที่หน้าตาดีมีรถไฟขับอย่างเดนโอก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆอย่างล้นหลาม(ซึ่งผมว่ามันไม่ได้ปังเพราะแค่แหวกแนวเอารถไฟมาให้ไรเดอร์ขับอย่างเดียวนะ แต่ยังรวมไปถึงการสร้างคาแร็คเตอร์ของตัวละครหลักที่น่าสนใจและโทนเนื้อเรื่องให้มีความแตกต่างจากซีรีส์ก่อนๆ ด้วยการฉีกให้คอเมดี้เต็มสูบไปเลย) และหลังจากซีรีส์นี้จบลง คอนเซปต์ของมาสค์ไรเดอร์ก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล สารพัดไอเดียสุดพิสดารพันลึกก็พากันหลั่งไหลเข้ามาแต่งแต้มให้มาสค์ไรเดอร์กันอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งบางไอเดียก็ดูเท่ห์ และบางไอเดียก็แบบ… อะไรวะเนี่ย?
แน่นอนว่าหุ่นยนต์ยักษ์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ถูกนำมาใส่ในมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ในสมัยที่ชิราคุระซังได้เปรยมาว่าอาจจะมีหุ่นยนต์ยักษ์ในโลกของไรเดอร์ ผมเชื่อว่าหลายๆคน(รวมถึงตัวผมเองด้วย)คงจะรู้สึกแบบ… หุ่นยนต์ยักษ์? จะบ้าเหรอ?? เพราะในโลกของโทคุซัทสึ ณ ตอนนั้น เวลาเรานึกถึง “หุ่นยนต์ยักษ์” เรามักจะนึกถึงหุ่นยนต์ที่สูงเท่าตึกสิบชั้นแบบของซูเปอร์เซนไทและโตเอะฮีโร่บางคนไง และมาสค์ไรเดอร์มันเป็นแฟรนไชส์ฮีโร่ที่มีจุดขายคือมอเตอร์ไซค์ ขี่แค่มอเตอร์ไซค์อย่างเดียวก็เสียวได้แล้ว แม้ว่าบางครั้งพี่แกจะขี่ม้า สโนว์โมบิล รถยนต์ หรือสัตว์วิเศษอะไรก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังขี่มอเตอร์ไซค์เป็นจิตวิญญาณหลักอยู่ดี ซึ่งตัวมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันอาจจะมีลูกเล่นเพิ่มเติมด้วยการรวมร่างกับสัตว์ยักษ์บ้าง แปลงร่างมาจากสัตว์วิเศษบ้าง มีโหมดกลายสภาพเป็นฟลายอิ้งบอร์ด หรือหุ่นยนต์ขนาดเท่ามนุษย์บ้าง แต่พวกมันก็ยังเป็นมอเตอร์ไซค์ ยังเป็นหัวใจสำคัญของมาสค์ไรเดอร์ และถ้ามอเตอร์ไซค์คือจุดขายของไรเดอร์ หุ่นยนต์ยักษ์ก็คือจุดขายของเซนไทเหมือนกัน ด้วยเหตุผลเดียวกันเลย และถ้าจู่ๆ ศัตรูในซีรีส์ไรเดอร์ขยายร่างขึ้น และให้ไรเดอร์เรียกหุ่นยนต์ยักษ์ออกมาสู้ต่อแบบเซนไท คงรู้สึกแปลกพิลึก…. ที่มาใช้จิตวิญญาณคนอื่น มันดูไม่เป็นตัวเองเลย
แต่ทว่า… ไอเดียของปีศาจขนาดยักษ์ดันมีมาก่อนหุ่นยนต์ยักษ์นี่สิ และมีมาตั้งแต่สมัยยุคโชวะแล้ว แถมต่อให้ไม่มีหุ่นยนต์ยักษ์ ฮีโร่ของเราก็สามารถเอาตัวเข้าแลกจนกำราบมันได้สำเร็จ จนพอมาถึงยุคเฮเซ เหล่ามาสค์ไรเดอร์ก็ยังหาวิธีในการเอาตัวเข้าไปซัดกับปีศาจยักษ์ได้แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร
จนกระทั่งมาถึงมาสค์ไรเดอร์เดนโอ ที่นอกจากเดนไลเนอร์จะเป็นพาหนะขนาดใหญ่สำหรับย้อนเวลาแล้ว มันยังมีมีโหมดสำหรับการสู้กับปีศาจยักษ์อีกต่างหาก ซึ่งการต่อสู้ระหว่างอิมาจินยักษ์กับเดนไลเนอร์นั้นจะใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการสรรค์สร้างฉาก จึงทำให้มีฉากแบบนี้แค่ในช่วงแรกๆของซีรีส์เท่านั้น…
พูดง่ายๆก็คือ หลังจากที่มาสค์ไรเดอร์ต้องสู้กับปีศาจขนาดใหญ่เป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็มีอุปกรณ์ทุ่นแรงสำหรับต่อสู้กับมหันตภัยชิ้นยักษ์ นั่นก็คือ “ยานพาหนะติดอาวุธ” แม้ว่าเดนไลเนอร์จะไม่ใช่ยานพาหนะที่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ชิ้นแรกในโลกของไรเดอร์ แต่ก็เป็นยานพาหนะที่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ชิ้นแรกที่สามารถต่อสู้ได้เต็มอัตราศึก และต่อมาในโลกของมาสค์ไรเดอร์ก็ได้มียานรบทำนองนี้เกิดขึ้นมาอีกมากมาย เช่น แคสเซิลโดรัน จากมาสค์ไรเดอร์คิบะ, รีโวลแกร์รี่ และ ฮาร์ดแมมมอเธอร์ จากมาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล
และในที่สุด ไอเดียของ “หุ่นยนต์ยักษ์” ก็ได้ปรากฏขึ้นในโลกของมาสค์ไรเดอร์อย่างเป็นทางการซักที ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่ โดยเจ้าหุ่นยนต์สีเหลืองที่มีชื่อว่า “พาวเวอร์ไดเซอร์” นี้ นอกจากจะมีความสามารถการต่อสู้ตามศักยภาพของผู้ใช้แล้ว มันยังสามารถกลายร่างเป็นแท่นไว้ส่งฮีโร่ของเราขึ้นไปเผด็จศึกเหล่าร้ายกลางอวกาศได้อีกด้วย และถึงแม้ว่าเจ้าหุ่นนี้จะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ไรเดอร์ใช้ในการต่อสู้ด้วยตนเอง(คือให้สมาชิกคนอื่นในชมรมเป็นคนขับ) แต่มันก็ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ว่า “นี่แหละ หุ่นยนต์ยักษ์ในโลกของไรเดอร์” หุ่นยนต์ที่จะไม่ทับไลน์จิตวิญญาณของเซนไท แน่นอนว่ามันไม่ควรใหญ่อลังการงานสร้างขนาดนั้น และการที่มันมีขนาดเล็กกำลังดีแบบนี้มันทำให้ภาพรวมของโลกมาสค์ไรเดอร์ยังคงอยู่กึ่งกลางระหว่างจินตนาการกับความจริงจังเหมือนที่ผ่านมา และในซีรีส์ต่อมาก็ได้เริ่มนำไอเดียไรเดอร์ขับหุ่นยนต์มาใกล้ความจริงมากขึ้น อย่างในมาสค์ไรเดอร์ไกมุก็จะมีซุยกะล็อคซีด ที่จะเป็นเกราะขนาดยักษ์ไว้ต่อสู้(คือจริงๆมันก็ไม่ใช่หุ่นยนต์หรอก มันก็คือชุดเกราะชุดนึงแหละ แต่มันตัวใหญ่ซะเหมือนหุ่นยนต์ยักษ์เลย) จนกระทั่งมาเป็นรูปเป็นร่างจริงๆก็ตอนซีรีส์มาสค์ไรเดอร์จิโอเนี่ยแหละ และเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ที่เปลี่ยนร่างมาจากเครื่องย้อนเวลาด้วยนะ แถมฟังก์ชั่นการต่อสู้ที่กินขาดมากๆก็คือ… เป็นหุ่นยนต์ที่มีพลังความสามารถตามพลังของผู้ใช้ ถ้าจิโอหรือเกซใช้ไรด์วอชอะไร มันก็จะมีพลังตามไรด์วอชนั้น หรือจะเป็นกรณีที่มาสค์ไรเดอร์บิลด์เคยเป็นผู้ขับหุ่น มันก็จะมีพลังแบบมาสค์ไรเดอร์บิลด์ (พูดง่ายๆ มันก็คือพาวเวอร์ไดเซอร์ที่ต่อสู้ด้วยพลังแห่งมาสค์ไรเดอร์หลากหลายแบบนั่นแหละ)
และการจะย่อส่วนฉากให้เป็นสเกลประมาณ 1:2 มันเป็นอะไรที่ไม่คุ้มเอาซะเลย จึงทำให้หุ่นยนต์ยักษ์และร่างที่เป็นชุดเกราะยักษ์ของมาสค์ไรเดอร์ ไม่สามารถสร้างชุดหุ่นยักษ์ให้มนุษย์สวมแบบเซนไทได้ ต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในสร้างตัวหุ่นเป็นหลัก(มีซุยกะอาร์มของไกมุที่มีการสร้างส่วนหัวของจริงไว้สำหรับถ่าย Close-Up ใบหน้า) และเช่นเดียวกับยานรบครับ เพราะการใช้ซีจีมันต้องใช้เงินและเวลาเป็นอย่างมาก เลยทำให้การต่อสู้ของหุ่นยนต์ยักษ์จึงมีแค่ไม่กี่ตอนในซีรีส์ หรือในโอกาสสำคัญๆเท่านั้น เช่นเดียวกับยานรบนี่เอง…
ฟังดูแล้วก็รู้เสียดายเนอะ ที่อุตส่าห์มีหุ่นยนต์ยักษ์มาอยู่ในจักรวาลของไรเดอร์แล้ว แต่ดันไม่สามารถนำมันมาโชว์ศักยภาพได้อย่างเต็มเปี่ยม เช่นเดียวกับยานขนาดยักษ์อื่นๆ เชื่อว่าอ่านถึงตรงนี้แล้วคงจะมีคำถามกันในใจประมาณว่า… แล้วจะใช้ไอเดียนี้ต่อไปทำไม? เมื่อใช้แล้วก็ใช้ได้แค่แปปเดียว
ให้ผมเดาใจทีมงานนะ ผมว่ามีสองประการ ประการแรก ไอเดียหุ่นยักษ์ เกราะยักษ์ ยานยักษ์ ถ้ามันนำมาผนวกเข้ากับโลกของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ที่เป็นแนววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มันจะช่วยเพิ่มความว้าวและความอลังการให้กับซีรีส์มากเลยนะ และประการที่สอง ไอเดียนี้มันยังสามารถสร้างเป็นโปรดัคส์อีกรูปแบบหนึ่งให้เด็กเล่นได้ด้วย เผื่อบางคนไม่ชอบเล่นเข็มขัด ไม่ชอบเล่นอาวุธ แต่ชอบเล่นยานรบ เล่นหุ่นยนต์ มาสค์ไรเดอร์ก็สามารถเจาะตลาดพวกเขาเหล่านี้ได้
แต่ถ้าให้ผมมองในมุมมองของศิลปินโดยไม่มีเรื่องของการตลาดมาปนนะ ผมว่ามันเป็นเรื่องของความสะใจล้วนๆ (หัวเราะ) ในฐานะที่ผมเป็นคนที่ทำงานในส่วนของ Pre Production เหมือนกัน (ถึงจะไม่เก่งเท่าพวกเขาก็เถอะ) การที่ไอเดียสุดบ้าระห่ำที่เราคิดขึ้นมาดันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ และยิ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากเบื้องบนและผู้ชมด้วยนะ ถ้าไม่ใช้คำว่าสะใจก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาแทนแล้วครับ