เปิดตำนานไอ้มดแดงไต้หวัน และไรเดอร์หญิงคนแรก …

แต่ก็ไม่ได้เป็นไรเดอร์หญิงคนแรกอย่างเป็นทางการซะงั้น

ใครจะรู้ว่า “คาเมนไรเดอร์” จากผลงานของ อ.อิชิโนะโมริ โชทาโร่ ก็ถูกต่างชาตินำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วถึงหลายภาคด้วยกัน บ้างก็ซื้อไปทำใหม่ บ้างก็หยิบของเค้าเอามาทำดื้อ ๆ เลยก็มี แต่มีประเทศหนึ่งที่ขอยกทีมงานจากญี่ปุ่นมาสร้างใหม่เป็นเวอร์ชั่นของตัวเองเลยครับ

วันนี้เราจะมาย้อนความถึงไอ้มดแดง เวอร์ชั่นไต้หวันกัน

แรกเริ่มเดิมทีเนี่ย คาเมนไรเดอร์ออริจินัลเวอร์ชั่นถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1971 และออกฉายทางช่อง NET (หรือ TV ASAHI ในยุคปัจจุบัน) ซึ่งกระแสตอบรับก็เป็นไปในเชิงบวก รวมไปถึงเรทติ้งที่พุ่งสูงจนทีมสร้างต้องทำภาคต่ออย่างวีทรี เอ็กซ์ และรุ่นน้องที่ตามกันออกมาอีกมากมาย

แน่นอนว่าความชอบคงไม่ได้หยุดแค่ในญี่ปุ่นแน่นอน ผู้ผลิตภาพยนตร์ของฝั่งไต้หวันอย่าง Tong Hsing Film Co,.Ltd ก็ปิ๊งไอเดียที่จะนำเข้ามาฉายในประเทศของตน ติดแค่ว่าถ้าเอาเวอร์ชั่นต้นฉบับมาพากย์เสียงใส่ก็คงจะไม่อิน แถมทำยังไงถึงจะได้กำไรแบบเน้น ๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มในส่วนนี้

ก็สร้างขึ้นมาเป็น Original ของตัวเองเลยสิ

และจากนั้น Project ของ Super Riders ก็เริ่มขึ้น …

閃電騎士V3

The Super Rider V3 สุดยอดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เปิดตัวในช่วงปลายปี 1975 ที่ขนเอาเหล่าไอ้มดแดงหมายเลข 1, 2 และ V3 (ในเรื่องจะเปลี่ยนชื่อเป็น Super Rider 1 / 2 / V3) มาร่วมกันถล่มองค์กร 「迪斯魔龍」(มังกรทมิฬ) โดยโปรดักชั่นดังกล่าวจะได้ทีมงานจาก TOEI มาช่วยให้คำแนะนำระหว่างการสร้ากด้วย

ภาพยนตร์ชุดแรกมีความยาว 91 นาที นักแสดงทั้งหมดเป็นชาวไต้หวัน แต่ภาพฟุตเทจบางส่วนก็ตัดมากจากทีวีซีรีส์โดยตรง ที่ฮือฮาก็คงจะเป็นการเปิดตัวหมายเลข 4 หรือ “ไรเดอร์แมน” ในเวอร์ชั่นของผู้หญิง !!!

นำแสดงโดย ซุง หลิง หยู

เข้าใจว่าอิทธิพลคงมาจากซุปเปอร์เซนไตที่ออกฉายในช่วงนั้น และเป็นการเอาใจเด็กผู้หญิงให้ได้รู้ว่าผู้หญิงเองก็มีส่วนสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นไรเดอร์หญิงคนแรกของโลก แต่เธอก็ไม่ได้ถูกบรรจุเข้าไปในประวัติศาสตร์ไรเดอร์แต่อย่างใด

https://youtu.be/Ps-Z08spD2k

อ๊ะ … ฉายไทยด้วยเรอะ!!

ในปีต่อมา หลังจากความนิมของภาพยนตร์นั้นสร้างความฮือฮาให้กับเด็กไต้หวันแบบสุด ๆ แล้ว ภาคต่ออย่าง The Five of Super Rider ก็ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งภาคนี้จะได้ Super Rider X (คาเมนไรเดอร์เอ็กซ์) มาร่วมศึกอีกด้วย โดยเนื้อหาจะกล่าวถึงการบุกถล่มองค์กรเงาปีศาจทมิฬ หรือองค์กร GOD นั่นล่ะ แต่ที่พิเศษคือภาคนี้มันปังมาก และออกฉายต่อจากภาคก่อนเพียง 2 เดือน (ภาคแรกฉาย พฤศจิกายน 1975 และภาคต่อฉาย มกราคม 1976) ซึ่งความเป็นจริงอาจจะสร้างรอไว้แล้วก็เป็นได้เนอะ

แน่นอนว่าฟุตเทจเดิมก็ยกมาจากคาเมนไรเดอร์เอ็กซ์แบบเต็ม ๆ มีถ่ายคัทอินเข้าไปนิดหน่อย และนักแสดงจากไต้หวันล้วนเช่นเคย

ด้วยความสำเร็จของภาคนี้ ทำให้หลายประเทศซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายต่อ ทั้งของไทย เกาหลีใต้และประเทศในแถบยุโรปครับ ซึ่งโซนหลังนี่ไปแบบ VHS หรือม้วนวิดีโอในปี 1980 แทน

เปลี่ยนชื่อและทำโปสเตอร์ซะน่ากลัวเลย Frankensteins Kung-Fu Monster

เรื่องที่เข้าฉายในไทยผมเองไม่แน่ใจว่าปีไหน แต่คาดว่าคงอยู่ในช่วงยุคปลาย 70s หรือประมาณปี 2520 – 2525 นี่ล่ะ … เกิดไม่ทันจริง ๆ

https://youtu.be/d-ds_iacjCs

閃電騎士大戰地獄軍團 ซุปเปอร์ไรเดอร์ปะทะองค์กรนรกโลกันต์

และภาคสุดท้ายออกฉายในเดือนกรกฎาคม 1976 หกเดือนหลังจากภาคสองได้ถูกปล่อยออกมา ทว่าภาคนี้ได้ลดในส่วนของการถ่ายทำเองลงไป และเพิ่มคัทซีนจากฝั่งญี่ปุ่นเข้าไปมากขึ้น แถมยังได้ “ยาบูกิ จิโร่” สตันท์แมนที่ปรากฏตัวในคาเมนไรเดอร์ออริจินัลซีรีส์มาเข้าฉากให้อีก

และในปี 2006 ค่ายหนังแผ่นอินดี้ในเยอรมันก็ซื้อลิขสิทธิ์ไปพากย์ในชื่อของ “Der Krieg Der Infras”

สำหรับบ้านเรา คุ้น ๆ ว่าเคยมีคนแปลงเป็น VCD ขายอยู่ในยุคที่หนังแผ่นเฟื่องฟู แต่ก็สูญหายไปตามกาลเวลา เพราะผ่านมาเป็นสิบปีแล้วล่ะครับ นึกแล้วก็เสียดาย อยากหามาเก็บเป็นที่ระลึกซักชิ้นจัง