
John Wick Chapter 3 Parabellum : A+

จากหนังที่สเกลเล็ก ๆ ทำกันแบบสนุก ๆ กลายเป็นหนังที่มีสเกลใหญ่เรื่องหนึ่งไปเรียบร้อย (ฮา) ส่วนตัวก็แปลกใจที่หนังเรื่องนี้สามารถลากยาวมาถึงภาคที่ 3 ได้ และก็น่าดีใจที่คุณภาพของมันยังคงคับแน่นไม่มีตกเช่นเดิม

แน่นอนเมื่อพูดถึงซีรีส์ John Wick หลาย ๆ คนย่อมนึกถึงฉากแอ็คชั่นที่สุดมันส์และสร้างสรรค์ ซึ่งภาคที่ 3 ก็ยังรักษามาตรฐานนี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในช่วงต้น – กลางของเรื่องที่เป็นแอ็คชั่น Non-Stop แบบเอาให้เหนื่อยกันไปช้าง มีความสนุก, สร้างสรรค์, งานสตั๊นท์โคตรเทพ, แฝงความตลกร้าย, มีความสวยงามในการจัดแสงสี, จังหวะที่ยอดเยี่ยม และความโหดที่ภาคนี้ดูจะจัดหนักเป็นพิเศษกว่าภาคอื่น ๆ แต่น่าเสียดายเมื่อถึงฉากไคล์แมกซ์สุดท้ายของเรื่อง เหมือนฟันเฟืองที่เดินเครื่องรวดเร็วมาตลอดเกิดสะดุดทำให้เสียจังหวะที่ดีของมันไป รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ฉากไคล์แมกซ์เหมือนกลับไปลอกของภาค 2 มาซะอย่างนั้น คือไม่ใช่ว่าฉากแอ็คชั่นแย่หรือไม่สนุก เพียงแต่มันดูดรอปลงจากฉากแอ็คชั่นต้น – กลางเรื่องไประดับหนึ่งเหมือนกัน

ในส่วนของโลกนักฆ่า ภาคนี้มีการขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นจนมีความรู้สึกว่า โลกนักฆ่ามันยิ่งใหญ่จนมันดูคนละจักรวาลกับภาคแรกไปเลยทีเดียว แต่มองเนื้อในจริง ๆ ผมชื่นชอบการสื่อโลกของนักฆ่าภาคนี้ ถ้าภาคแรกคือการเปิดโลกนักฆ่า ภาคสองคือการขยายสเกล ภาคที่สามคือการแสดงให้เห็นเนื้อในโลกของนักฆ่าที่มีแต่ความโหดร้ายและอำมหิต ภายใต้กฎที่ถูกตั้งขึ้นมาจากผู้มีอำนาจ มันทำให้เรารู้สึกเคืองใจ หงุดหงิด แต่เราไม่รู้สึกต่อต้านได้มากนัก เพราะมันก็สานต่อผลกระทบจากภาคสองที่สื่อได้ดีเยี่ยม และมันก็โหดร้ายสมกับเป็นโลกที่มีแต่คนที่คิดแต่จะเอาชีวิตคนอื่นเป็นหลักด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมองถึงบทของหนังมันกลับไม่ได้เดินเรื่องในระดับที่เราหวังเท่าไหร่ มันดูเข้มข้นและจังหวะเรื่องไม่ลงตัวเท่ากับภาค 2 การเดินเรื่องในภาคสามเรียกว่ามันน้อยเกินไปถ้ามองการขยายสเกลโลกของมันที่ไปไกลแล้ว และเพราะการเดินเรื่องที่น้อยเกิน มันส่งผลให้เรื่องราวมันไปสู่ตอนจบที่ผมไม่ค่อยจะแฮปปี้เท่าไหร่นัก ส่วนตัวคิดว่าถ้ามันเดินเรื่องได้ดีกว่านี้ บทสรุปมันอาจไม่ต้องลงเอยแบบนี้ก็ได้ (คือมันค้างคาใจชนิดว่านอนไม่หลับเลยแหละ) แต่อีกแง่ ถ้ามองว่ามันสื่อความโหดร้ายในโลกของหนัง การเดินเรื่องมาแบบนี้ก็สมกับจักรวาลของ John Wick ดีเหมือนกัน อย่างไรก็ตามภาพรวมบทของหนังก็ยังอยู่ในมาตรฐานที่ดี มันส่งให้เราเอาใจช่วยตัวละครและพาเราไปจนจบเรื่องได้ไม่มีเบื่อ เพียงแต่มันน่าจะดีกว่านี้เท่านั้นเอง

สุดท้ายเมื่อมองภาพรวมแล้ว ในปีนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า John Wick Chapter 3 Parabellum เป็นหนังแอ็คชั่นที่ดีที่สุดของปีอยู่ดี แม้มันอาจจะมีจุดสะดุดที่ทำให้รู้สึกว่าภาคที่แล้วทำดีกว่า แต่ด้วยแอ็คชั่นที่ยังสมมาตรฐานของซีรีส์ การขยายโลกของหนังที่ยังน่าสนใจ บทที่อาจไม่ได้ดีเท่าภาคก่อนแต่ก็ยังสนุกได้มาตรฐาน จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหนังเรื่องนี้ ได้ช่วยเสริมให้ไตรภาค John Wick เป็นไตรภาคหนังแอ็คชั่นที่ทรงคุณค่าอีกซีรีส์หนึ่งในวงการภาพยนตร์
ขอขอบคุณ Mongkol Major มา ณ ที่นี้ด้วยสำหรับบัตรชมภาพยนตร์ครับ
Review by Soma