
เมื่อวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ถือว่าเป็นรอบแรกของการฉายภาพยนตร์เรื่อง Kamen Rider Zi-O The Movie : Over Quartzer ในประเทศไทย ถือว่าไวมากๆเลยนะ เพราะฉายหลังจากญี่ปุ่นเพียงแค่ 36 วันเท่านั้นเอง (โคตรไวเลย…) และแน่นอนว่า ผมไปดูวันแรกสุดเลย เห็นแฟนๆไรเดอร์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ยกโขยงกันมาสรรเสริญราชาแห่งยุคเฮเซกันอย่างเนืองแน่นแล้วรู้สึกดีจริงๆครับ เล่นซะสกาล่าร้อนไปถนัดตาเลย (หัวเราะ)

ถ้าให้เทียบกับตอนที่ฉาย Kamen Rider Build The Movie : Be The One ที่โรงเดียวกันแล้ว ผมว่าครั้งนี้คนเยอะกว่ามากเลยทีเดียว… น่าจะเป็นภาพยนตร์ที่หลายๆคนรอคอยด้วยกระมั้ง…

เรื่องย่อ :
เหตุการณ์ในภาพยนตร์จะอยู่ในช่วงตอนที่ 44 -47 ของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์จิโอ (เพราะในตอนที่ 44 โชโกะบอกว่าตัวเองยังไม่ได้รับการยอมรับจากมาสค์ไรเดอร์ไดร์ฟ แต่ในตอน 47 เกซได้มีการพูดถึง ชิจิมะ โก / มาสค์ไรเดอร์มัคที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย แต่เรื่องราวในช่วงสี่ตอนนี้มันดันอัดแน่นกันซะจนไม่มีช่องว่างให้เนื้อหานี้เสียบเข้าไปได้เลยนี่สิ?) เมื่อโทคิวะ โซโกะ และพรรคพวก ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากคริม สเตนเบลท์ ที่ขอให้ย้อนเวลาไปช่วยบรรพบุรุษของเขาจากการหมายหัวของกลุ่ม Quartzer ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มักจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ให้เป็นไปตามใจของตน

รีวิวจากแอดแผน :
“ทีเซอร์อย่างอลัง ครึ่งแรกอย่างกาว ครึ่งหลังอย่างซึ้ง”
นี่คือคำนิยามของผมสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เอาจริงๆนะ ก่อนจะมาชมเรื่องนี้ ผมอ่านสปอยของคนที่ไปดูที่ญี่ปุ่นมาก่อนแล้ว (เพราะคิดว่ากว่าจะได้ดูจริงๆก็ปีหน้า) รู้สึกงวยงงก็สิ่งที่เขาเขียนสรุปมามาก แต่พอมาชมจริงๆเท่านั้นแหละ หายงงเลย สิ่งที่ภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดให้ตาและหูของเราได้รับรู้แบบตรงๆนั้นเข้าใจง่ายกว่าที่อ่านจากตัวอักษรของใครก็ไม่รู้อีก…

ถ้าสาส์นที่อยากจะบอกผู้ชมของ Heisei Generation Forever คือการบอกว่า “ฮีโร่นั้นอยู่กับเราเสมอ แม้ว่าจะเป็นแค่จินตนาการก็ตาม” ผมว่าของ Over Quartzer ก็คงจะบอกว่า “ฮีโร่ในใจของเราไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอกเสมอไป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน เขาก็สามารถเป็นฮีโร่ในใจเราได้” แน่นอนว่าทั้งโซโกะ เกซ และวอซ ต่างก็ต้องตามหานิยามของฮีโร่ในแบบของตัวเอง และเดินไปตามวิถีนั้น แม้ใครจะมองยังไงก็ตาม อย่างโซโกะที่ยังคงยึดมั่นที่จะเป็นจอมมารที่ดี แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าสุดท้ายจะกลายเป็นผู้ชั่วร้าย หรือเกซกับวอซที่ต่างฝ่ายต่างคอยซัพพอร์ตจิโอในแบบของตัวเอง แต่ถึงนิยามของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ ต่อสู้เพื่อพิทักษ์โลกและประวัติศาสตร์ของพวกเขา

ที่ใช้พลังของมาสค์ไรเดอร์จากซีรีส์อเมซอนส์ และเหล่าโชวะไรเดอร์ในยุค 90
อีกอย่างที่ผมชอบก็คือ การนำไอเดียของการปะทะกันระหว่างโชวะกับเฮเซมาแฝงใช้อีกครั้งแบบแนบเนียน ถ้าสังเกตดีๆ ไรเดอร์ตัวร้ายทั้งสามล้วนแต่ใช้พลังของโชวะไรเดอร์(ที่มีเอี่ยวกับยุคเฮเซ) และพวก Quartzer ที่ปรากฏในเรื่องก็มีความรังเกียจในยุคเฮเซและเฮเซไรเดอร์ด้วย จึงทำให้การปะทะกันระหว่างสองขุมพลังนี้ เป็นการปะทะกันระหว่างธรรมะกับอธรรมโดยสมบูรณ์ ส่วนเรื่องของการล้อเลียนประวัติศาสตร์ ล้อได้แบบ โอ้โห… ปั่นจนเป็นสมูตตี้เลย ถ้าเป็นหนังไทยเขียนบทแบบนี้นะ เตรียมเช็ดหูรอฟังคำด่าจากกระทรวงวัฒนธรรมได้เลยครับ

ในส่วนนักแสดงที่มีส่วนทำให้เรื่องนี้เข้มข้นขึ้นมาก อย่างอินาบะ ยู(โก) กับ คริส เพ็พเลอร์(คริม) ทั้งคู่ก็มาเติมเต็มในส่วนของไดร์ฟได้ดี ชนิดที่ว่าลืมไปเลยว่าอยากให้ทาเคอุจิ เรียวมะมาด้วย ส่วน ISSA และ DA PUMP ทั้งวงในบทของแก๊ง Quartzer นั้น ในส่วนของ ISSA เขาก็ร้องเพลงให้กับซีรีส์ไรเดอร์มาก็บ่อย ในที่สุดก็มีโอกาสได้ลองแสดงในบทบาทของไรเดอร์ดูบ้าง และยิ่งลากสมาชิก DA PUMP มาทั้งวงมาด้วยแล้วนั้น เชื่อได้เลยว่าแฟนๆของวงนี้มีกรี๊ดกันแน่นอน (อีกอย่าง พวกเขายังได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง P.A.R.T.Y. ~ユニバース・フェスティバル~ อีกด้วยนะ และติดหูไม่แพ้เพลง U.S.A. ซึ่งเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 เมื่อปีที่แล้วของพวกเขาด้วยนะ
ศึกใหญ่ครั้งสุดท้าย(แต่ยังไม่ท้ายสุด เพราะมีภาพยนตร์ตอนปลายปีอีก) บอกเลยว่าอลังการ งานสร้างมากๆ ถึงจะดูรวบรัดเกินไปก็เถอะ แต่แค่โอมะฟอร์มโชว์เทพ ผมก็ร้องตู้วหูวละ
และสุดท้าย ฉากเปิดตัวเป็นครั้งแรกของมาสค์ไรเดอร์เซโร่วัน ซึ่งทำออกมาได้ว้าวมากๆเลยทีเดียว และผมคิดว่าลูกเล่นของไรเดอร์ตัวนี้น่าสนใจดีครับ

สรุปภาพรวมพร้อมให้คะแนน :
ถ้าชอบดูภาพยนตร์โทคุซัทสึที่มีเนื้อหาเบาสมอง : เรื่องนี้ตอบโจทย์ครับ
ถ้าชอบความอลังการของการต่อสู้ของเหล่าเฮเซไรเดอร์ : ก็อลังการพอตัวอยู่นะ แนะนำเลย
ถ้าชอบความเซอร์ไพรส์ : บอกเลยว่าเซอร์ไพรส์!!!
ถ้าไม่ดูเรื่องนี้แล้วจะดูซีรีส์ที่เหลือรู้เรื่องไหม? : ก็รู้เรื่องอยู่นะ แต่ถ้าจะดูให้สนุกจริงๆ ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยดีกว่า
แอดแผนให้คะแนน : 9/10

(ภาพไม่ได้เอามาจากตัวภาพยนตร์นะครับ)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเหลือรอบฉายอีกสองรอบ นั่นก็คือ 14 กันยายน และ 21 กันยายนนี้ ที่โรงภาพยนตร์สกาล่าในเวลา 9.30 น. และสามารถจองบัตรได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับแฟนๆไรเดอร์ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังกรุงเทพ สามารถติดตามรายละเอียดการรวมพลเปิดรอบพิเศษในจังหวัดต่างๆได้ ส่วนคนที่ต้องการจะประชาสัมพันธ์การรวมตัวกันจัดรอบพิเศษในต่างจังหวัด สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ในกรุ๊ป Facebook ของ J-HERO ได้เลย