“ชื่อของผมคือเท็นคูจิ ทาเครุ … ในวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปี ผมถูกฆ่าตายโดยกัมมะ และกลายมาเป็นคาเมนไรเดอร์โกสท์ เพื่อที่จะคืนชีพนั้น ผมจึงต้องตามหาอายค่อนของเหล่าวีรชนทั้ง 15 ให้ได้ก่อนเวลา 99 วันของผมจะหมดลง”
นี่คือคาเมนไรเดอร์ซีรี่ส์เพียงไม่กี่เรื่องที่หยิบเอาธีมของ “ไสยศาสตร์” มาใช้เป็นแนวทางหลักในการดำเนินเรื่องครับ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คนดูบางส่วนคาดหวังซักเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายก็มีเรื่องของวิทยาศาสตร์เข้ามาปะปนอยู่เช่นเคย
หลายคนอาจจะมองภาพว่าเป็นเรื่องราวของพระเอกนักล่าวิญญาน ที่ต้องสู้กับผีร้ายและมีท่าสะกดวิญญานต่าง ๆ นานา แต่ทว่าคาเมนไรเดอร์โกสท์ไม่ใช่แบบนั้น …
พระเอกของเรื่องต้องตามหา “ดามาชี่” (หรือจิตวิญญาน) ของเหล่าวีรชนที่มีตัวตนจริง ๆ ในโลกนี้ นับว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับแฟน ๆ ของซีรี่ส์นี้เลยก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมาเราจะได้เจอกับพลังวิทยาศาสตร์ หรือพลังลึกลับของสิ่งที่ไม่สามารถหาคำอธิบาย โดยจะมาจากเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของเจ้าของเรื่อง
แต่โกสท์กลับนำเอาประวัติศาสตร์ รวมไปถึงอัตชีวประวัติบุคคลมาใส่ในเนื้อหาได้อย่างแนบเนียน จนเราแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่า เรากำลังดูประวัติของบุคคลในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์อยู่ยังไงยังงั้น
จิตวิญญานต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่องไม่ใช่ “วิญญาน” หรือผีตามความเชื่อของคนทั่วไป แต่ในเรื่องนี้พยายามอธิบายว่ามันคือ “ความตั้งใจอันแรงกล้า” ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แม้กระทั่งเจ้าของความตั้งใจนั้นจะสิ้นสลายไปแล้วก็ตามที
แต่ “ความตั้งใจอันแรงกล้า” ที่ว่านั้นก็จะยังคงอยู่ในรูปแบบของ “ดามาชี่” ซึ่งพระเอกของเราสามารถผนึกจากสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น ๆ และเอามาใช้เป็นพลังของตน
โดยดามาชี่แต่ละดวงจะสื่อถึงองค์ประกอบของการมีชีวิต ทั้งความรัก ความพยายาม ความมุ่งหวัง ความโกรธ รวมไปถึงอารมณ์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสื่อโดยตรงต่อธีมของเรื่องที่พยายามจะให้พระเอกของเรากลับมามีชีวิตอีกครั้งให้ได้นั่นเองครับ
ส่วนประเด็นที่ซีรี่ส์นี้พยายามเน้นเป็นรองลงมาก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน โดยยกเอาหน่วยที่เล็กที่สุดอย่าง “ครอบครัว” มาเป็นตัวแทนในการอธิบายใจความที่เรื่องราวต้องการจะสื่อ
ไม่ว่าจะเป็นความไม่ลงรอยกันระหว่างพ่อ-ลูก แม่-ลูก พี่-น้อง เพื่อนวัยเด็ก ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้จะมีพระเอกของเราคอยตามแก้ปัญหาให้ ด้วยพลังในการ “เชื่อมต่อจิตใจ” ของทาเครุ ทำให้เค้าอธิบายความรู้สึกของคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
เหมือนจะเป็นตัวอย่างให้กับคนดูว่าถ้าหากคน ๆ หนึ่ง ” เข้าใจ” ด้านหนึ่งของอีกคนแล้ว ปัญหาทุกอย่างในโลกอาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้
คาเมนไรเดอร์โกสท์เป็นซีรีส์ที่เหมาะกับการนั่งดูกับลูก ๆ หลาน ๆ และสอนเค้าไปพร้อมกันว่าส่วนประกอบในเรื่องมีนั้นมีคุณค่าอะไรบ้าง อาจจะลากโยงไปสอนประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญ รวมไปถึงการสอนให้เข้าใจเรื่องของ “การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น” ได้เป็นอย่างดี
ไม่นับความพีคของพระเอกหนุ่มผู้รับบท “เทนคูจิ ทาเครุ” อย่าง “นิชิเมะ ชุน” ที่โด่งดังถึงขนาดทีมงานต้องพากลับมาปรากฏตัวในคาเมนไรเดอร์ซีรีส์ทุกเรื่องหลังจากซีรีส์ของตัวเองจบลง (เอ็กเซด – บิลด์ – จิโอ)
วันหยุดยาวถ้าหากไม่ไปไหน ลองเปิดคาเมนไรเดอร์โกสท์ชมกันได้นะครับผม
แล้วก็ติดตามชีวิตของพระเอกหนุ่มคนนี้ได้ที่ทวิตเตอร์ของเค้าเลย