หลังจากที่ปล่อยให้แฟน ๆ รอกันมาสามสัปดาห์
ล่าสุดเพลงเปิดที่มี MV ประกอบก็ถูกปล่อยออกมาในตอนที่ 3 แล้ว
หลังจากได้ชมไปก็ทำให้เข้าใจถึงสาเหตุที่ปล่อยช้า เพราะในนั้นมันมีอะไรบอกใบ้ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในช่วงต่อไปของซีรีส์ค่อนข้างเยอะ ทีมงานจึงเลือกที่จะปล่อยเนื้อหาออกมาก่อนเพื่ออธิบายถึงโครงเรื่องพื้นฐาน จากนั้นตัว MV จะให้พวกเรามานั่งคิดกันเองต่อครับว่าจะเป็นอย่างไร
ช่วงต้นของเพลงเปิดที่เป็นคำบรรยาย ตรงนี้จะเอาภาพจาก “องก์แรก” มาใช้ คิดว่าคงจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามสเต็ปการดำเนินเรื่องครับ และคงหนีไม่พ้นหลังปีใหม่ที่จะเปลี่ยนภาพดำเนินเรื่องในช่วงต้นเพลงเปิดแบบนี้ (เหมือนเป็นการเกิร่นให้ทราบว่าองก์นี้เนื้อหาจะเน้นไปในทิศทางใด)
ซีนแนะนำตัวละครก็เป็นไปตามที่ได้ชมกันในสามตอนแรก หากแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่เราจะได้ตัวละครถึง 4 กลุ่ม นั่นคือฝั่ง Hiden Intellince ที่นำโดยอารูโตะและอิซึ ส่วนฝั่งรองประธานนี่ผมคิดว่าน่าจะเป็นตัวฮาที่คอยสร้างสีสันมากกว่าจะมีอิมแพคใด ๆ กับเนื้อเรื่องหลักครับ
(แต่ก็ไม่แน่นะ ไว้ใจคนเขียนบทไม่ค่อยได้ด้วย #ฮา)
ต่อมาคือ A.I.M.S หน่วยงานพิเศษที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและมีหน้าที่ควบคุม + ปราบปราม
เหล่าฮิวมาเกียร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงระบบข้อมูล นำโดยอิซามุและยูอะ ซึ่งในท้ายตอนเราจะได้เห็นหัวหน้าหน่วยตัวจริงนั่งเป็นเงามืด ๆด้วย ถ้าเป็นไปตามที่หลายคนเดาไว้ เค้าอาจจะกลายเป็นคาเมนไรเดอร์ซักคน
สุดท้าย ณ เวลานี้คือ “เม็ทซึโบะจินไรเน็ท” (อันนี้เรียกตามที่ตัวละครพูดไปละกัน จะเติมดอทเน็ทก็ได้ไม่ผิดอะไร) ที่มีทั้งจิน และโฮโรบิ จากตราสัญลักษณ์ขององค์กรแล้วไม่น่าจะมีแค่สองคนแน่ ๆ อย่างน้อยต้องสีล่ะ ตามคอนเซปท์ของทิศทั้งสี่
หน่วย A.I.M.S มีเป้าหมายเพียงแค่จัดการเปล่าฮิวมาเกียร์ที่ถูกแฮคระบบเท่านั้นเหรอ?
ผมว่ามันอาจจะมากกว่านั้น ตามสไตล์การดำเนินเรื่องของคาเมนไรเดอร์ซีรีส์ยุคใหม่แล้ว องค์กรพวกนี้มักจะมีอะไรเบื้องหลังที่เลวร้ายเสมอ พาลให้นึกถึง ZECT ยังไงยังงั้นเลย
อิซึถูก Hacking ? ? ?
ธีมภาพแนวนี้เป็นไปได้อย่างสูงว่ามันคือเหตุการณ์ในอดีตครับ ยิ่งมีภาพของอิซึผมยาว + ไฟแดง + ตาแดงติดมาด้วยแบบนี้ มันยิ่งทำให้คิดไปได้อีกว่าเธอคือ “กุญแจสำคัญ” ของโศกนาฏกรรมเมื่อ 10 กว่าปีก่อน
ดาวเทียม และ ฮิวมาเกียร์ Outebreak
สิบกว่าปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
Hiden อยู่เบื้องหลัง หรือเกิดจากผู้ไม่หวังดีกันล่ะ?
ฮิวมาเกียร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการทำงานและทดแทนในสิ่งที่มนุษย์ขาดหาย พวกเค้านำมาเป็นอาวุธสงคราม หรือพัฒนาตัวเองจนมีความคิดที่จะล้างเผ่าพันธุ์ผู้สร้างจนไปถึงครอบครองโลกแทน อันนี้เป็นเรื่องที่น่าติดตามครับ
เปิดตัวไรเดอร์ … เดี๋ยวมามาอีกแน่นอน คอนเฟิร์ม ในเรื่องนี้น่าจะมีอย่างน้อย 6 ตัวในซีรีส์หลัก
จากภาพที่เห็นคือความร่วมมือระหว่างอารูโตะและสองไรเดอร์จาก A.I.M.S แบ่งชัดเจนแน่นอนแล้วว่าพวกเค้าต่อสู้กับฮิวมาเกียร์ที่ถูกดัดแปลงข้อมูลเพื่อปกป้องมวลมนุษย์
แล้วโฮโรบิกับจินล่ะ? พวกเค้าจะเปลี่ยนข้างหรือเปล่า? อันนี้คงต้องตามกันต่อไป
หุ่นยนต์มีน้ำตา …
คาเมนไรเดอร์ซีโร่วันไม่ใช่แค่เป็นการเปิดศักราชเรวะ แต่มันคือการออกแบบเนื้อหาตามแนวคิดของ อ.อิชิโนะโมริ โชทาโร่ บิดาผู้ให้กำเนิดตัวละครคาเมนไรเดอร์ ซึ่งเดิมทีคาเมนไรเดอร์เองก็มีเนื้อหาที่มนุษย์ต้องสู้กับหุ่นยนต์ (มนุษย์ดัดแปลง / ช็อคเกอร์) อยู่แล้ว
ทว่าคาเมนไรเดอร์คนแรกกลับเป็นมนุษย์ดัดแปลงที่เหลือจิตใจความเป็นมนุษย์ และใช้พลังจากความชั่วร้ายที่ได้รับเพื่อเข้าต่อสู้และปกป้องสันติสุขของโลก
บางทีคอนเซปท์นี้อาจจะถูกนำมาเป็นโครงเรื่องในซีโร่วันก็ได้ครับ เพียงแต่มันถูกดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย และ AI เองก็มีความสามารถในการเรียนรู้ + พัฒนาตนเอง จุดนี้การที่ฮิวมาเกียร์จะมีอารมณ์และความรู้สึกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
โคโนะสุเกะตายจริงหรือไม่?
เชื่อว่าไม่น่าตาย หรือถ้าตายก็คงไปแค่กายหยาบ ระดับประธานมันต้องมีเทคโนโลยีพิเศษมาซัพพอร์ทบ้างล่ะ ไม่แน่อาจจะโผล่มาในองก์สุดท้ายของเรื่องเพื่อเฉลยทุกอย่างก็เป็นได้
ไดรฟเวอร์ ฝน และซากปรักหักพัง
ซีนนี้ทีมงานเคยเอามาใช้ในเอ็กเซดเดอะมูฟวีทีนึง สงสัยจะชอบ เพราะมันสื่อถึงปัญหาที่เกิด > สิ่งที่พัวพัน > ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น การต่อสู้โดยมีสันติสุขเป็นเดิมพันต้องมีการสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา … ว่าแต่ใครล่ะที่จะเสียหายมากที่สุด?
ซีนนี้อาจจะใส่มาเท่ ๆ แต่ก็ทำให้น่าคิดอีกเช่นกัน
หลายคนนึกถึงฉากการจับมือของพาราโดะ + เอมุในคาเมนไรเดอร์เอกเซด ซึ่งมุมกล้องนี่แทบจะมุมเดียวกันเลย คิดว่าบริบทในซีนนี้น่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ
มันคือภาพที่แทนความหมายของมนุษย์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก AI ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกแห่งความจริงยุคนี้เราขาดพวกเค้าไม่ได้แล้ว
AI อาจจะทำให้มนุษย์ถอยหลังการวิวัฒนาการ หรือลดทอนความสามารถบางอย่าง หรือแม้แต่เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่สุดท้ายแล้วมันคือการพึ่งพาอาศัยกันตามหลักของระบบนิเวศน์ เพราะมนุษย์และ AI ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกเรื่อง การทำงานร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเราก้าวไปสู่อนาคตข้างหน้าได้ครับ
ฉากนี้ดูแล้วนึกถึงเพลงเปิดขบวนการซุปเปอร์เซนไตที่ชอบเอาตัวละครมากอง ๆ รวมกันแล้วยืนเท่ ๆ ในช่วงปิดซีน คือมันก็เท่ล่ะ แต่ก็อดคิดต่อไม่ได้ว่าสองคนฝั่งซ้ายมันจะเปลี่ยนข้างมาอยู่กับตัวเอกรึเปล่านี่สิ?
ก็ต้องมารอลุ้นกับเนื้อเรื่องกันต่อไปว่าจะพลิกจากหน้ามือเป็นหน้ามือ
หรือจะมีจุดเปลี่ยนอะไรให้เราได้เห็นกันบ้าง คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
และตอนนี้สามารถฟังเพลง “REAL×EYEZ TVsize”
แบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้วบน Spotify เช่นเดียวกันครับ