ในประเทศไทยนั้น มาสค์ไรเดอร์จิโอก็กำลังฉายผ่านทางโทรทัศน์และสตรีมมิ่งแบบถูกลิขสิทธิ์อยู่พอดี และเชื่อว่าแฟนๆโทคุหลายคนก็คงอยากจะไปหาพวกเขาที่ร้านคุจิโกจิ เหมือนกับที่แฟนซีรีส์เกาหลีเขาไปเกาะนามิกันใช่มั้ยล่ะ? วันนี้ครับผมจะพาทุกคนไปตามรอยท่านจอมมารและผองเพื่อนกันถึงที่ซุกหัวนอนกันเลย!
โดยสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำเป็นหน้าร้านซ่อมนาฬิกาคุจิโกจิที่เหล่าตัวละครหลักอาศัยอยู่นั้นก็คือ ร้านคาเฟ่เล็กๆในเมืองคาวางุจิ จังหวัดไซตามะ ที่มีชื่อว่า “เซ็นคิยะ” นี่เอง ส่วนวิธีเดินทางจากโตเกียวนั้นก็สามารถทำได้โดยการนั่งรถไฟปกติของ JR ได้เลย เพื่อไม่ให้ทุกคนงง ผมจะอธิบายทีละสเต็ปละกัน
- เริ่มจากนั่งรถไฟ JR สายเคย์ฮินโทโฮคุ (Keihintohoku Line หรือสายสีฟ้า) เพื่อเข้าสู่จังหวัดไซตามะ ซึ่งเราสามารถขึ้นรถไฟสายนี้จากโตเกียวได้ที่สถานีอากิฮาบาระ หรือสถานีอุเอโนะ
- นั่งไปจนถึงสถานีมินามิ-อุราวะ (Minami-Urawa Station) แล้วเปลี่ยนขบวนไปขึ้นรถไฟ JR สายมุซาชิโนะ (Musashino Line หรือสายสีส้มในไซตามะ)
- นั่งไปจนถึงสถานีฮิงาชิ-อุราวะ (Higashi-Urawa Station) แล้วเดินไปขึ้นรถเมล์ใกล้ๆ เพื่อเดินทางต่อไปอีกราวๆ 3 กิโลเมตร
- รถเมล์จะจอดหน้าร้านแบบเป๊ะๆเลย (ร้านอยู่ซ้ายมือ) เพราะมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าร้าน ตอนกลับไปสถานีรถไฟก็นั่งรอรถตรงนั้นไปเลย
(ผมแปะ Google Maps ไปด้วยเลยละกัน…)
ตัวร้านนั้นจะอยู่ในย่านที่คนไม่พลุกพล่าน อีกฝั่งจะเป็นทุ่งโล่งๆ ได้ความสงบสุดๆ ซึ่งก็เหมาะกับบรรยากาศภายในของร้านที่เต็มไปด้วยความสงบ เพลงสบายๆ อาหารอร่อยๆ เหมาะกับพาครอบครัวมานั่งทานข้าวในวันหยุด นอกจากร้านนี้จะมีอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มแล้ว ที่ร้านยังขายซีดีเพลง Easy-Listening ให้คุณเอากลับไปเปิดฟังชิลๆที่บ้านได้อีก
และแม้ว่าภายในของร้านคุจิโกจิจะเซ็ตอัพขึ้นมาในโตเอะสตูดิโอ แต่ในภาพยนตร์ Heisei Generation Forever ก็ได้มีการถ่ายทำในพื้นที่ภายในร้านจริงๆเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มีนักแสดงหลักจากมาสค์ไรเดอร์จิโอมาเข้าฉากด้วยนะ
อาหารหลักๆของร้านก็จะเป็นเมนูข้าว และแฮมเบอเกอร์เป็นหลัก ซึ่งรสชาติก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวนะ แม้ว่าเมนู(โดยเฉพาะเมนูข้าว)จะมีความชีวจิตมากก็ตาม ผักสดมากกกกกก… แถมราคาก็ไม่แพง โดยเซ็ตอาหารพร้อมเครื่องดื่ม จะเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 เยนเท่านั้นเองครับ ถือว่าคุ้มมากเลยนะ
สิ่งที่รู้ไว้ก็ดี ถ้าจะมาที่นี่
- สำหรับคนที่เช่ารถมา เหมือนจะมีที่จอดรถอยู่ แต่มันก็เล็กมาก แนะนำให้นั่งรถเมล์เข้ามาดีกว่า
- ร้านเริ่มเปิดตอนเที่ยงวัน จนถึง 6 โมงเย็น
- หยุดวันพุธกับวันพฤหัส
- เพื่อให้ง่ายต่อการใช้บริการ ควรจะพาคนที่เก่งภาษาญี่ปุ่นมาด้วย เพราะเมนูของร้านไม่มีภาษาอังกฤษเลย