“ผมออกจากวงการไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เพราะทุกคนผมถึงได้กลับมา”
– มุราคามิ โคเฮ –
วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของเค้า อย่าเพิ่งเข้าใจผิด … แต่เป็นวันที่ 13 เดือน 9 วันที่ชายผู้นี้ติ๊งต่างเอาว่ามันคือ “Kaixa’s Day” แถมมันก็กลายเป็นวันที่เป็นจริงเป็นจังสำหรับแฟน ๆ อีกด้วย
แล้ววันนี้มันมีที่มายังไง?
แน่นอนว่าต้องมาจาก 9 – 1 – 3 รหัสแปลงร่างของ Kamen Rider Kaixa อยู่แล้ว แต่ทว่ามันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ …
มุราคามิซังเข้าวงการตั้งแต่อยู่มัธยมปลายครับ (ปี 1995) แมวมองไปสะดุดกับความหล่อของพี่เค้าจนชักจูงให้ขึ้นสู่การประกวดเวทีพระเอกหนังแปลงร่าง เอ๊ย! จูน่อนบอยครั้งที่ 7 และก็ได้รับรางวัลขวัญใจมหาชนไปซะด้วย
เจ้าตัวเล่นละครไปเรื่องนึงก่อนจะตั้งใจเรียนจนจบมหาวิทยาลัย และเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวในปี 2001 และหนึ่งในผลงานนั้นก็คือโทคุซัทสึซีรีส์อย่าง Jikuu Keisatsu Wecker D-02
ต่อมาในปี 2003 เค้าก็ออดิทชั่นผ่านและเข้ามารับบท “คุซากะ มาซาโตะ” ตรงนี้คงไม่ต้องเล่า เพราะมันคือตำนานที่ทุกคนอาจจะรู้ไปแล้ว เมื่อจบซีรีส์ก็โลดแล่นในวงการจนถึงปี 2010
นั่นคือปีสุดท้ายที่เจ้าตัวคิดจะออกจากวงการบันเทิง …
แม้ว่าในช่วงเวลานั้นคือยุคที่นักแสดงญี่ปุ่นหลายคนกำลังมีปัญหากับเอเจนซี่ของตนเอง หากใครที่ติดตามข่าวบันเทิงญี่ปุ่น เรามักจะได้เห็นการฟ้องร้องระหว่างนักแสดงและเอเจนซี่อยู่บ่อยครั้ง ทว่าในกรณีของมุราคามิซังนั้นไม่ได้เกิดจากผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว แต่เกิดจากตัวนักแสดงที่รู้สึกว่า “อิ่มตัว” กับวงการ เพราะเค้าเล่นมาแล้วแทบทุกบท
มุราคามิซังแจ้งกับค่ายนักแสดงแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญา และตัดสินใจจัดงานอำลาขึ้นมา โดยใช้บทที่เจ้าตัว “รักมากที่สุดในชีวิตการแสดง” นั่นคือบทของ คาเมนไรเดอร์ไคสะ … คุซากะ มาซาโตะ
13 กันยายน 2010 คือวันที่เค้าจัดงาน Kaixa’s Day ขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟน ๆ ที่เป็นกำลังใจและคอยสนับสนุนตัวเค้า อีกทั้งยังเป็นงานที่จัดเพื่อขอบคุณเพื่อน ๆ และผู้มีพระคุณในวงการที่เคยร่วมงานด้วยกัน จากนั้นในปี 2011 มุราคามิ โคเฮย์ แถลงใน blog ส่วนตัวว่าได้สิ้นสุดสัญญากับค่ายนักแสดง A-TEAM และจะยุติอาชีพในวงการบันเทิง โดยเหลือแต่งานสเตจโชว์ (ละครเวที) เท่านั้นที่ยังมีส่วนร่วมอยู่
การกลับมา …
เพียงเวลาแค่หกเดือนกว่าหลังจากแถลงข่าวยุติอาชีพในวงการบันเทิง กระแสเรียกร้องของแฟน ๆ ที่ขอให้เค้ากลับมาปรากฏตัวอีกครั้งก็ส่งมาเป็นระยะ อีกทั้งผู้ผลิตรายการทีวีหลายรายก็อยากที่จะร่วมงานกับเค้าอีกด้วยเช่นกัน หนึ่งในผู้มีอิทธิพลกับการกลับเข้าสู่วงการอีกครั้งก็คงจะหนีไม่พ้นสุดยอดมือเขียนบท “อิโนะอุเอะ โทชิกิ”
สองคนนี้สนิทกันตั้งแต่ร่วมงานในคาเมนไรเดอร์ไฟซ์แล้วครับ เคยเห็นในทวิตเตอร์ครั้งหนึ่งเผยว่าทั้งสองมี “รสนิยม” คล้าย ๆ กัน (ไม่ใช่เกย์นะ แค่แนวทาง ความคิด ทีมฟุตบอลก็เชียร์ทีมเดียวกัน และทุกอย่างมันคลิกกันเท่านั้นเอง สองคนนี้จะสนิทกันสุด ๆ ก็ไม่แปลก)
ปี 2012 มุราคามิซังกลับเข้าสู่วงการบันเทิงอีกครั้งในค่ายนักแสดง Dolchester และการกลับมาก็ทำให้เค้าทำอะไรได้แปลกและแหวกมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะความอัธยาศัยดีของเจ้าตัวเลยทำให้รู้จักคนดังไปทั่ว และหนึ่งในนั้นก็คือ “ยามากุจิ ยูโกะ” ดีไซน์เนอร์เจ้าของผลงาน Hello Kitty
เพราะความคลั่งไคล้ในตัว Hello Kitty แบบสุด ๆ ของมุราคามิซัง ทำให้ทีมงานของทาง BANDAI เริ่มเห็นช่องทาง และจับเอาคาเมนไรเดอร์ไฟซ์มาครอสกับเด็กสาวหน้าแมวได้อย่างลงตัวจนกลายเป็นคอลเลคชั่นสุดพิเศษ เรียกได้ว่าเครดิตส่วนหนึ่งของโปรเจคท์นี้ต้องยกให้มุราคามิซังเค้าล่ะ
เครย์ฟิช ! ! !
หนึ่งในงานอดิเรกที่เจ้าตัวประกาศว่าคือสิ่งที่เป็นความสามารถพิเศษแบบสุด ๆ นั่นคือการเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชครับ คลั่งหนักถึงขนาดเคลมว่าเค้าคือ “ราชานักเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชแห่งวงการบันเทิงญี่ปุ่น” กันเลยทีเดียว และความบ้าคลั่งนี้ก็ส่งผลให้กลายมาเป็นสมาชิกกิตติมศักด์ของสมาคมนักเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชนานาชาติ International Association of Astacology (IAA) ไปในที่สุด …
ยัง … ยังไม่พอ จังหวัดฟุกุชิมะได้แต่งตั้งให้เค้าเป็นฑูตประจำท้องถิ่นผู้ประชาสัมพันธ์การเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชอีกด้วย และในการประกวดกุ้งเครย์ฟิชประจำปี 2015 สัตว์เลี้ยงแสนรักของเค้าคว้ารางวัลชนะเลิศประเภทสวยงาม … โคตรสุดอ่ะ
จูโอเจอร์กับความไม่ได้ตั้งใจ …
อันที่จริงแล้วบทของ “บัด” หรือจูโอเบิร์ด จูแมนผู้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีรีส์ จะเล่นโดยตัวจูแมนเองนั่นล่ะ (เอาร่างสัตว์แปลงร่างดื้อ ๆ เลย) แต่เพราะสูทแอคเตอร์ของบัดดันเป็นคนเดียวกับที่ใส่ชุดจูโออีเกิ้ล (สีแดง) บทเลยต้องเปลี่ยนให้บัดมีร่างคนเพื่อสะดวกต่อการทำงานของสูทแอคเตอร์
ทีมงานเลยต้องหานักแสดงมารับบทนี้ในข้อจำกัดที่ว่า จะต้องเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการโทคุซัทสึมาก่อน เมื่อปรึกษากันภายในทุกฝ่ายแล้วจึงได้ยื่นข้อเสนอให้กับมุราคามิซัง ซึ่งงานซุปเปอร์เซนไตคืองานเพียงชิ้นเดียวที่เค้าไม่เคยสัมผัส นั่นก็เป็นโอกาสดีที่จะเก็บผลงานให้ครบทุกสายคอลเลคชั่น (มุราคมิซังเล่นมาแล้วทั้งคาเมนไรเดอร์ อุลตร้าแมน กาโร่ คิวตี้ฮันนี่ เหลือเซนไตนี่ล่ะยังไม่ได้แตะ) การตอบตกลงจึงเป็นไปอย่างรายรื่น และเค้าก็มาปรากฏตัวอย่างที่เราได้เห็นกัน
ในไคสะเดย์ปีนี้ เจ้าตัวออกซิงเกิ้ลใหม่เป็นเพลงประจำตัวคาเมนไรเดอร์ไคสะ “Existence ~ KAIXA nized dice” ใครสนใจก็ลองไปกดสั่งซื้อกันได้นะเออ
รู้จักผู้ชายคนนี้มากกว่า Meme เม็ดทรายแล้ว ก็อย่าลืมไปทักทายเจ้าตัวในทวิตเตอร์ได้นะครับ
ที่มา :
http://blog.koheimurakami.com
https://ja.wikipedia.org/wiki/村上幸平