**บทความนี้ถูกเขียนขึ้นก่อนการฉายของมาสค์ไรเดอร์จิโอ ตอนที่ 45**
ถึงแม้จะเป็นวายร้าย แต่ตัวละครนี้ก็ได้รับความรักและความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับไดโด คัตสึมิ หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง NEVER หนึ่งในทีมวายร้ายสุดแกร่งจากโลกของมาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล โดยคัตสึมินั้นจะใช้เอเทอร์นัลเมมโมรี่เพื่อแปลงร่างเป็นมาสค์ไรเดอร์เอเทอร์นัล และถึงแม้ว่าคัตสึมิกับพรรคพวกจะก่อวีรกรรมอันน่ากลัวจนทำให้ชาวเมืองฟูโตะต้องระส่ำระส่าย แต่แฟนๆไรเดอร์ก็ยังคงชื่นชอบในตัวของวายร้ายผู้นี้อยู่เสมอ ถ้าให้ผมวิเคราะห์ว่าทำไม? คงจะมีเหตุผลประมาณนี้ครับ
1. เป็นวายร้ายที่มีส่วนผสมระหว่าง “ความเลวร้าย” และ “ความรัก”
เหตุการณ์ที่จะทำให้เหล่าร้ายส่วนมากได้พลังพิเศษ หรือหักเหชีวิตไปเป็นคนเลวอย่างสมบูรณ์แบบนั้น มักจะเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงหรือเลวร้ายสำหรับเจ้าตัวเสมอ ไม่ดวงกุดก็ฟางเส้นสุดท้ายขาดแล้ว และถ้าเรามาดูจุดเริ่มต้นในการเป็นวายร้ายของคัตสึมิตั้งแต่ต้นนั้นจะเห็นได้ว่า เขาได้ผ่านทั้งเหตุการณ์ดีๆและเหตุการณ์เลวร้ายมาโดยตลอด
เริ่มจากตัวคัตสึมินั้นประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ด้วยความรักของศาสตราจารย์มาเรียผู้เป็นแม่ จึงได้ตัดสินใจชุบชีวิตลูกชายขึ้นมาอีกครั้งด้วยการฉีดเอนไซม์ชนิดพิเศษ ที่จะทำให้ร่างกายสามารถขยับขึ้นมาได้อีกครั้ง
แต่โครงการนี้ก็ยังต้องใช้เงินทุนในการทำวิจัยต่อไป จึงทำให้เธอได้นำเสนอโครงการเพื่อขอทุนกับทางฟาวเดชั่น X แต่สุดท้ายก็แห้วไป เพราะทางฟาวเดชั่นได้เลือกที่จะให้ทุนกับโครงการไกอาเมมโมรี่ของทางมิวเซียม และนั่นจึงเป็นชนวนแรกที่ทำให้คัตสึมิรู้สึกไม่สบอารมณ์กับมิวเซียม และเริ่มก้าวสู่ด้านมืดไปแล้วเกือบครึ่ง เขาได้รวบรวมพรรคพวกเพิ่มมาอีกสี่คนแล้วเลือกที่จะรันวงการทหารรับจ้างซะเลย นอกจากจะเพื่อหาเงินทุนให้แม่ทำวิจัยต่อแล้ว ยังถือเป็นการโปรโมทโครงการ NEVER ด้วยว่าเอนไซม์ชุบคนตายมันสุดยอดแค่ไหน
แต่ในวันหนึ่ง เมื่อทีมต้องมาทำภารกิจในประเทศแห่งหนึ่ง เขาได้รู้สึกดีกับผู้หญิงคนหนึ่ง และก็อยากจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากพันธนาการที่พื้นที่แห่งนี้ได้ตรึงเธอไว้อยู่ แต่แล้วก็เหมือนฟ้าสาป เพราะเธอได้เสียชีวิตต่อหน้าเขา โดยที่เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่นาน และนั่นก็ทำให้คัตสึมิได้รู้สึกชอกช้ำระกำทรวง พร้อมกับได้ลิ้มรสความชั่วร้ายจากอายส์โดพันท์ที่ทำให้เธอต้องมาลงเอยแบบนี้ จึงทำให้เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว หลังจากที่เขาได้ส่งโดพันท์ตัวนั้นลงนรก ก็ได้คิดการใหญ่ชนิดที่ว่าตัวเองก่อนหน้านั้นคงคิดไม่ถึง นั่นก็คือ….
“แสดงแสนยานุภาพของ NEVER เพื่อให้ชาวเมืองฟูโตะ และมิวเซียมได้หวาดผวาซะเลย”
แน่นอนว่าชีวิตของคัตสึมินั้นน่าสงสารนะ ทั้งโดนรถชนตาย แต่แม่ก็ยอมชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ ทั้งโดนปฏิเสธการให้ทุน แต่นั่นก็ทำให้ชีวิตเขาพลิกผันจนมาเจอกับสิ่งที่อยากปกป้อง แถมพอถึงตรงนี้ก็ดันโดนยัดเยียดให้ลิ้มรสกับความสิ้นหวังที่ไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลยแบบถึงพริกถึงขิง เชื่อว่าถ้าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นกับใครก็คงมีผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับความรักจากผู้คนมากแค่ไหน แต่เมื่อมีความเลวร้ายเข้ามาบดขยี้ความรักจนแหลกสลาย ก็ทำให้เขาสามารถถึงจุดที่ว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อั๊วเป็นฝ่ายโดนบดขยี้มาเยอะแล้ว คราวนี้อั๊วจะบดขยี้พวกลื้อให้เละเป็นโจ๊กเลยคอยดู!
2. ชอบทำตาม “สัญชาตญาณ”
ไม่รู้ว่าทุกคนคิดแบบผมไหมนะ? ผมว่าตัวละครประเภทที่แบบ ทำอะไรตามเสียงเรียกร้องของหัวใจมันเป็นอะไรที่เท่ห์ดีนะ แต่กับคัตสึมิ แม้ว่าหัวใจจะไม่เต้นแล้ว แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง และดำเนินชีวิตไปตามนั้นบ้างเป็นบางครั้ง
เหมือนกับตอนที่คัตสึมิได้มาเจอกับเอเทอร์นัลเมมโมรี่ครั้งแรก อย่างที่ทราบกันว่า เจ้าตัวนั้นเกลียดไกอาเมมโมรี่และมิวเซียมเป็นอย่างมาก สาเหตุก็มาจากตอนที่ชิงทุนกันเนี่ยแหละ แต่เมื่อเจอกับเอเทอร์นัล คัตสึมิกลับรู้สึกถูกชะตากับพลังนี้อย่างบอกไม่ถูก จนถึงขั้นที่อยากจะได้พลังนี้มาเป็นของตน แม้ว่านี่จะเป็นพลังที่ทำให้เขาต้องชวดเงินจากฟาวเดชั่น X ก็ตาม…
ในขณะเดียวกัน เอเทอร์นัลเมมโมรี่ก็ติสท์พอๆกัน มันก็ได้สนใจในตัวคัตสึมิด้วย และเมื่อต่างฝ่ายต่างโหยหากันและกัน จึงก่อให้เกิดมาสค์ไรเดอร์ที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว
และในส่วนของวีรกรรมในการปลดแอกผู้คนในค่ายกักกันแม่เหล็กไฟฟ้าของคัตสึมินั้น เชื่อได้เลยว่าที่เขาทำไปนั้นไม่ได้หวังจะเป็นวีรบุรุษหรอก คงรู้สึกสังเวชที่พวกเขาต้องมาอยู่ที่นี่แบบสัตว์ในกรงเสียมากกว่า…
3. พลังการต่อสู้ที่ขั้นเทพ “จนดับเบิ้ลต้องหอบขึ้น”
ถ้าตัดไกอาเมมโมรี่กับลอสไดร์เวอร์ออกไปก่อน และดูที่ความสามารถทางกายภาพแบบเพียวๆเลยนะ คัตสึมิก็ถือว่าเป็น(ศพ)มนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พร้อมกับมีพละกำลังมหาศาลเหนือมนุษย์ มีร่างกายที่ทนทานต่อกระสุนปืนและแรงกระแทกสูง แถมยังมีจิตใจที่กล้าบ้าบิ้น ไม่มีความกลัวตายใดๆทั้งสิ้น จากคุณสมบัติพวกนี้ทำให้เขาและเพื่อนๆที่เป็นเหมือนกับเขาสามารถคว่ำทั้งกองทัพที่มีอาวุธครบมือได้ด้วยมือเปล่า (แต่ถึงกระนั้นนี้ก็ยังมีจุดบอดตรงที่ว่า ต้องฉีดเอนไซม์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ไม่งั้นก็กลับไปเป็นผักเหมือนเดิม อีกอย่าง ยิ่งฉีดไปเรื่อยๆ ความทรงจำและความเป็นมนุษย์ก็จะค่อยๆ หายไปทีละนิดๆ) แถมทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการใช้มีดสั้นนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ซึ่งมันเท่ห์นะ คนที่เข้าไปบุกตะลุยทุกอย่างที่ขวางหน้าโดยมีมีดสปาต้าแค่เล่มเดียวเนี่ย….
และเมื่อได้รับพลังของเอเทอร์นัลเมมโมรี่ ที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของไกอาเมมโมรี่คู่ต่อสู้(ยิ่งเป็นรุ่น T2 จะสามารถยับยั้งการทำงานของไกอาเมมโมรี่รุ่นเก่าๆได้ทั้งหมด) จึงทำให้คัตสึมิในร่างของมาสค์ไรเดอร์เอเทอร์นัลมีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
อีกอย่าง ถ้าดูจากการใช้งานไกอาเมมโมรี่ของเจ้าตัว ถือได้ว่าเป็นคนที่เรียนรู้เร็ว และรู้จักวางแผนการต่อสู้ให้ตรงกับสถานการณ์ จากการเลือกใช้เมมโมรี่รุ่น T2 ในการต่อสู้กับดับเบิ้ล อย่างตอนที่หนีไปตั้งหลักบนดาดฟ้าฟูจิทาวเวอร์ คัตสึมิหยิบไกอาเมมโมรี่ไปสองอัน นั่นคือเอเทอร์นัลเมมโมรี่ สำหรับแปลงร่างเพื่อให้สามารถใช้งานเมมโมรี่ที่หยิบมาได้อีกอัน นั่นก็คือโซนเมมโมรี่ ที่มีคุณสมบัติในการเคลื่อนย้ายเมมโมรี่รุ่น T2 ที่เหลือให้มาเพิ่มพลังกับตัวเขาได้ โห… ถือว่าฉลาดจริงๆ เพราะถ้าหอบทุกอันไปตั้งหลักคงจะถือลำบากน่าดู งั้นเอาไปแค่อันที่สามารถเรียกที่เหลือให้มาสมทบอัตโนมัติได้แล้วกัน
แม้ว่าพลังของเอเทอร์นัลจะดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ ถ้าตัด Maximum Driver ออก แต่ด้วยทักษะการบู๊และบุ๋นของเจ้าตัว จึงทำให้มาสค์ไรเดอร์เอเทอร์นัลเป็นวายร้ายสุดแกร่งตัวหนึ่งที่กำราบยากมากจนทำให้มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ลต้องร้องพลังจากสายลมมาช่วยเขากันเลยทีเดียว
4. วีรกรรม ในฐานะ “วีรบุรุษ”
ตลอดช่วงชีวิตที่ไม่มีชีวิต(อย่างกับชื่อเพลงเก็ตสึโนว่าเลย…)ของคัตสึมินั้น เขาแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเป็นวีรบุรุษเลย ทุกอย่างที่เขาทำนั้นล้วนแต่มีแรงจูงใจเดียว คือความอยากส่วนตัว และเขาอยากที่จะแสดงให้ฟาวเดชั่น X ได้เห็นว่าพวกเขานั้นโง่เง่าและตาถั่วแค่ไหนที่ได้บังอาจปฏิเสธการให้ทุนกับโครงการนี้ และถ้าลองสังเกตการรวบรวมพรรคพวกของเขานั้น จะเห็นว่าเขามักจะเลือกคนที่ถูกมนุษย์ด้วยกันเองฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เพื่อให้พวกเขาได้โอกาสที่สองที่จะแสดงให้โลกรู้ ว่าพวกลื้อคิดผิดแล้วที่มาทำเช่นนี้กับอั๊ว
และเมื่อเขาและพรรคพวกได้มาทำภารกิจในประเทศแห่งเดิมกับที่พูดถึงในข้อแรกๆ เขาได้ถูกจับตัวมาอยู่ในค่ายกักกัน ที่เต็มไปด้วยมนุษย์พลังจิต หรือ ควาร์กส พวกเขาอาศัยอยู่ในนี้ตามปกติ ไม่หือไม่อืออะไรกับชีวิต และยอมทำตามคำสั่งของด็อกเตอร์พรอสเพค หรืออายส์โดพันท์ทุกอย่าง เพื่อหวังว่าวันหนึ่ง ด็อกเตอร์จะเชิญพวกเขาไปเป็นนักรบในวังของด็อกเตอร์ ซึ่งทัศนคติของพวกเขานั้นทำให้คัตสึมิรู้สึกสมเพชเป็นอย่างมาก และก็ได้พยายามเตือนสติพวกเขาว่า เฮ้ย! พวกลื้อจะมีชีวิตแบบไร้คุณค่าแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย ดูอั๊วสิ อั๊วถูกรถชนจนตาย แต่ก็ไม่สลบ อั๊วยังรักที่จะมีลมหายในเลย และด้วยคำพูดของคัตสึมินี้เอง ก็ได้ทำให้เหล่าผู้คนในค่ายกักกันลุกฮือออกมาเพื่อต่อต้านด็อกเตอร์พรอสเพค บวกกับการที่คัตสึมิไม่ชอบขี้หน้าและอยากจะขยี้ด็อกเตอร์เป็นทุกเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้เขาได้กลายมาเป็นหัวหน้าผู้ปลดแอกในครั้งนี้
สิ่งที่คัตสึมิพูดมันเท่ห์มากเลยนะ มันเป็นคำพูดที่ไม่น่าจะออกมาจากปากของคนชั่วได้ และเชื่อเลยว่าหลายๆคนคงจะถูกใจในวาทะกรรมปลุกใจ และวีรกรรมปลดแอกชาวค่ายกักกันพลังจิตของคัตสึมิกันแน่ๆ
แต่วีรกรรมของเขาในฐานะวีรบุรุษก็ได้พังไม่เป็นท่า เพราะเนื่องจากโปรแกรมที่อายส์โดพันท์ตั้งไว้นั้น ได้ทำให้ผู้คนในค่ายเสียชีวิตจนหมดตั้งแต่ยังไม่พ้นเขตค่าย แม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นที่เป็นหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้เขาอยากจะทำความดีคืนกำไรสู่สังคมบ้าง และอีกสิ่งสำคัญที่ได้ตายไปพร้อมกับพวกเขานั่นก็คือ วีรกรรมของคัตสึมิในฐานะวีรบุรุษ
จากนั้น ผู้คน(โดยเฉพาะชาวเมืองฟูโตะ)ล้วนแต่มองคัตสึมิว่าเป็นปีศาจร้าย ซึ่งถ้าดูจากวีรกรรมที่พี่แกทำ ก็สมควรแล้วแหละ แต่ทว่า… หลังจากที่คัตสึมิได้ถูกมาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ลส่งกลับบ้านเก่าอย่างถาวร สาวน้อยที่ได้รอดชีวิตมาจากวีรกรรมปลดแอกค่ายกักกันพลังจิต ที่คัตสึมิได้เข้าใจมาตลอดจนวาระสุดท้ายของชีวิตว่าเธอได้ตายไปแล้ว ก็ได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายที่คัตสึมิและพรรคพวกได้ก่อไว้ในเมืองนี้ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังอยากที่จะให้มาสค์ไรเดอร์ผู้สังหารเขาได้รับรู้ว่า ไดโด คัตสึมิ ก็มีด้านดีกับเขาเหมือนกันนะ
จริงอยู่ที่บุญเก่าไม่สามารถทำให้คนเลวหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาไปได้ และเขาก็ได้รับทัณฑ์นั้นไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งเดียวที่โชทาโร่กับฟิลลิปส์จะสามารถบอกคัตสึมิที่อยู่ในปรโลกว่าพวกเขาได้รู้ถึงความดีที่คัตสึมิเคยทำแล้ว…
“นายน่ะ ถ้าหากมีบางอย่างทำให้ชะตานายเปลี่ยนไปล่ะก็ นายคงจะได้เป็นมาสค์ไรเดอร์ที่คอยปกป้องเมืองฟูโตะเหมือนพวกเราแน่ๆ”
(ฮิดาริ โชทาโร่)
จากที่ดูเรื่องราวมาทั้งหมด เราไม่สามารถจัดได้ว่าคัตสึมินั้นเป็นตัวละครสีขาวหรือสีดำอย่างสมบูณณ์แบบ เขาก็เป็นเพียงแค่คน(ที่ตายไปแล้ว)คนหนึ่ง ที่เดินไปตามเส้นทางที่โชคชะตาปูไว้ ไม่ว่ามันจะพาเขาไปทางไหน ไปเจอกับเรื่องดีๆ หรือเรื่องแย่ๆ เขาก็หาได้แคร์ไม่ ก็เหมือนพวกเราทุกคนเนี่ยแหละ มันขึ้นอยู่กับว่า เราจะยึดมั่นในด้านไหน?
แต่ถึงกระนั้น ถ้าโตเอะจัดให้อยู่ในหมวดวายร้าย เขาก็คือวายร้ายเสมอ….
แต่ก็เป็นวายร้ายที่มีความเป็นมนุษย์อยู่นะ