»»»» ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 25 มกราคม 2009 คือวันที่คาเมนไรเดอร์ดีเคด ออกอากาศในญี่ปุ่นเป็นวันแรกครับ
»»»» ขอทวนความหลังนิดนึง
จำได้ว่าช่วงนั้นอินเตอร์เน็ตคือสิ่งที่ตามหาอะไรก็เจอ แม้กระทั่ง Link
ดูสดหรือโปรแกรมที่ดูรายการทีวีจากญี่ปุ่น
การรับชมพร้อมกับประเทศต้นทางก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป
.
.
.
»»»» คาเมนไรเดอร์ดีเคดนั้นมีการเปิดตัวในนิตยสารเทเลบิตั้งแต่ช่วงปลายปี
2008 โดยมีคำโปรยเอาไว้ว่า นี่คือซีรีส์ฉลองครบรอบ 10
ปีของเฮเซคาเมนไรเดอร์ โดยจะรวบรวมเหล่าไรเดอร์รุ่นพี่เอาไว้ครบทุกคน
แค่อ่านรายละเอียดก็ขนลุกชิหัยแล้วครับ
ประกอบกับดีไซน์ที่มีเสียงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
ทั้งคนที่รับไม่ได้กับหน้าตาสุดประหลาด
และฝั่งคนที่บอกว่ามันเป็นความแปลกใหม่แบบได้ใจไปเลย
.
.
.
»»»» หลังดูตอนที่ 1 จบ ความตื่นเต้น + กับความอยากได้ในสินค้า Decadriver
ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เพราะฉากการปรากฏตัวของไรเดอร์คนนี้ที่สามารถแปลงร่างเป็นไรเดอร์คนไหนก็ได้
แถมด้วยลูกเล่นจากเข็มขัดที่ชวนให้ซื้อมาแกะดูว่ามีเสียงอะไรข้างใน
(พิมพ์การ์ดเสียบวัดดวงกันสนุกไปเลยว่าออกมาเป็นเสียงของไรเดอร์ตัวไหน)
จึงทำให้ดีเคดเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง พร้อม ๆ
กับราคาเข็มขัดที่พุ่งสูงขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน
.
.
.
»»»» หากใครที่พอจำความรู้สึกตอนนั้นได้
การครอสโอเวอร์ระหว่างไรเดอร์แต่ละเรื่องถือว่าเป็นวาระที่พิเศษสุด ๆ ครับ
ก่อนดีเคดจะฉายโตเอะเคยทำไปแค่สองครั้งเท่านั้น ก็คือสเปเชี่ยล DVD
ของริวคิ และมูฟวี่พิเศษของเด็นโอ x คิบะ
จนกระทั่งดีเคดได้เอาตัวนักแสดงนำจากคาเมนไรเดอร์คิบะอย่าง เซย์โตะ โคจิ (คุเรไน วาตารุ) มาปรากฏตัวในดีเคดตอนแรก ก็ตอกย้ำว่านี่คือเรื่องราวของไรเดอร์หน้าใหม่กับเหล่ารุ่นพี่ทั้ง 9 … !!!
จนกระทั่งเราได้เห็น โอโนะเดระ ยูสุเกะ นั่นล่ะครับ
เราถึงได้รู้และเข้าใจว่าคาเมนไรเดอร์ดีเคดคือการเดินทางไปยังโลกคู่ขนานของเหล่าเฮเซไรเดอร์นั่นเอง
.
.
.
»»»»
แม้ว่าการดำเนินเรื่องโดยภาพรวมจะทำออกมาได้แบบไม่มีประเด็นอะไรมากนัก
บางช่วงบางตอนทำออกมาให้คนดูเก่าหัวและอุทานว่า “แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอวะ?”
แต่เมื่อเราเข้าใจ (ทำใจ) และยอมรับในเส้นเรื่องของมัน
ความสนุกก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปกว่าเดิมเลย
จริง ๆ เหมือนจะมีอะไรให้พูดถึงอยู่เหมือนกันเกี่ยวกับเนื้อหาที่ปรากฏออกมาว่าทำไมมันถึงดูสะเปะสะปะมากมายนัก เท่าที่ตามเก็บข้อมูลมา ผู้ดูแลเกี่ยวกับบทและเนื้อเรื่องอย่าง อ.ไอคาว่า โช ที่เป็นหัวเรือใหญ่จากคาเมนไรเดอร์เบลดมาก่อน ได้ถูกโปรดิวเซอร์ ชิราคุระ ชินอิจิโร่ ให้มานั่งแท่น Head Writer ให้กับซีรีส์นี้ ทว่าเมื่อดำเนินเรื่องไปได้เพียง 13 ตอนก็เกิดมีปัญหาเกี่ยวกับแนวทางและความไม่ลงรอยระหว่างทีมสร้างกับสปอนเซอร์ ทำให้ อ.ไอคาว่า โช ยุติการทำงานกับฝั่งโตเอะไปพักนึงเลย
ตรงนี้เข้าใจว่าบริษัทของเล่นน่าจะมองเห็นกราฟความนิยมที่พุ่งสูง เลยมีใบสั่งประหลาด ๆ ออกมาจนเจ้าตัวรับไม่ได้ อะไรแบบ “อ่าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า …” ทำนองนั้นล่ะ
แต่สุดท้ายในปี 2013 โปรดิวเซอร์ ซาซากิ โมโตอิ (ทีวีอาซาฮี) เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาในระหว่างที่คาเมนไรเดอร์วิซาร์ดเข้าสู่งช่วงโค้งสุดท้าย ด้วยการเสนอขึ้นมาว่าควรจะมีตอนพิเศษเพื่อส่งไม้ต่อให้กับคาเมนไรเดอร์ไกมุบ้าง เพราะตอนนั้นไกมุไม่ได้ออกในมูฟวี่ของวิซาร์ด ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับมูฟวี่จากเฮเซไรเดอร์เฟสที่สองครับ ที่พวกไรเดอร์คนต่อไปจะมาปรากฏตัวในมูฟวี่ของไรเดอร์ตัวก่อนหน้า เช่นดับเบิลไปออกในมูฟวี่ของดีเคด หรือโอสมาโผล่ในมูฟวี่ของดับเบิล เป็นต้น
ไม่รู้ว่ายังไงและไปทำอีท่าไหน คุณโมโตอิก็สามารถกล่อมให้ อ.ไอคาว่ากลับมาเขียนบทได้ แต่ อ.เองก็ยื่นคำขาดมาข้อนึงว่าถ้าให้อั๊วะเขียน ลื้อต้องเอาดีเคดกลับมา !!!
งานงอกรึเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งตอนนั้น อิโนะอุเอะ มาซาฮิโระ เสือกประกาศลงบล็อคไปว่าจะไม่เล่นเป็นไรเดอร์อีกต่อไปแล้วนะ เลยทำให้วงในคงวุ่นวายกันน่าดู แต่สุดท้ายเรื่องทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
หลังจากนั้นมา อ.ไอคาว่า ก็เขียนบทให้กับทคคิวเจอร์บางตอน ซึ่งคงจะไม่มีอะไรต่อกันแล้วล่ะ
ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากหลายแหล่ง อย่าเอาไปอ้างอิงอะไรมากมายครับ
แต่ดูสภาพแล้วคงมีปัญหากันจริงล่ะ ไม่งั้นจะเปลี่ยน Head Writer
ทำไมตั้งสองสามคนในเรื่องเดียว
.
.
.
»»»»
เข้าเรื่องดีเคดกันต่อ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัว Head Writer มาเป็นคุณ
โยเนะมูระ โชจิ ที่เขียนบทหลักให้กับคาเมนไรเดอร์คาบูโตะมาแล้ว
แต่งานเผือกร้อนเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาหนักอะไรมากมายกับซีรีส์ที่เน้นเอามันส์มากกว่าเนื้อหา
เพราะสิ่งหนึ่งที่ทีมงานได้สร้างจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ก็คือการส่งดีเคดไปยังโลกของ
“ซุปเปอร์เซนไต” (ไปเจอกับชินเคนเจอร์ในตอนที่ 24-25)
แม้จะเป็นการโปรโมทภาพยนตร์ที่เตรียมออกฉายช่วงเดือนสิงหาคมก็ตามที
แต่นั่นคือการนับหนึ่งในบันทึกเล่มใหญ่ของจักรวาลโตเอะฮีโร่
ว่าตอนนี้กำแพงระหว่างพวกเค้าได้ถูกทำลายลงไปเรียบร้อยแล้ว
นั่นจึงทำให้ดีเคดมีอิสระในการสร้างเรื่องราวให้ไปได้สุดกว่าที่เคยนั่นเอง
.
.
.
»»»»
หากโยนความมั่วแบบสุดปลายเท้าและการหาคำตอบของเหตุผลที่ทิ้งเอาไว้ในตอนจบทิ้งไป
คาเมนไรเดอร์ดีเคดถือว่าประสบความสำเร็จในด้านของการสร้างคาแรคเตอร์ให้เป็นที่จดจำ
เพราะแม้เวลาจะผ่านมาร่วม 10 ปีเต็มแล้วก็ตาม
แต่ชื่อของเค้ายังคงอยู่ในใจแฟน ๆ เสมอมา และอีกทั้งยังเป็นเด็กเส้นของ
BANDAI
ในการปูพรมสินค้าใหม่ในซีรีส์ของรุ่นน้องอย่างคาเมนไรเดอร์จิโออีกด้วย
.
.
.
»»»» เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจุดสิ้นสุดของไรเดอร์คนนี้จะไปอยู่ที่ไหน
เพราะคอนเซ็ปท์ของ “ไรเดอร์ที่ผ่านทางมา” นั้นไม่มีขอบเขตที่เด่นชัด
สายลมที่พัดผ่านไปยังโลกต่าง ๆ ของคาเมนไรเดอร์ซีรีส์
คือสิ่งที่อยู่ในความคิดของผู้ชม
และหวังเสมอว่าเค้าจะไปปรากฏตัวให้พวกเราเห็นในทุกเรื่องราวที่มีคำว่า
“คาเมนไรเดอร์” ปะปนอยู่
Journey Through The Decade Forever …