โทคุซัทสึกับการล่องเรือสำราญ??

เดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเคยผ่านตาสื่อประชาสัมพันธ์ทริปล่องเรือสำราญ โดยมีคาแร็คเตอร์ของขบวนการซูเปอร์เซนไทเป็นตัวโปรโมท จากรายละเอียดระบุไว้ว่า การจะเข้าร่วมทริปจะต้องชำระเงินท่านละ 1,199 บาท แต่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีจ่ายแค่ 899 บาทเท่านั้น แถมยังมีโปรโมชั่นลด 10% สำหรับ 20 ท่านแรกอีกต่างหาก ส่วนกิจกรรมบนเรือสำราญนั้น ก็จะมีการแสดงของซูเปอร์เซนไท การจับ Lucky Draw เพื่อลุ้นรับรางวัลต่างๆ แล้วก็การถ่ายภาพคู่กับซูเปอร์เซนไทที่อยู่บนเรือ อืม… สำหรับผมนะ ฟังดูเผินๆมันก็น่าสนใจนะ เพราะถ้าคำนวณค่าใช้จ่ายในการจัดทริปล่องเรือสำราญบนแม่น้ำเจ้าพระยาหนึ่งชั่วโมงครึ่งรวมกับค่าลิขสิทธิ์เพื่อนำคาแร็คเตอร์มาประกอบกิจกรรม ก็ถือว่าคุ้มนะครับ แต่ผมคิดว่ากลุ่มลูกค้าหลักบางส่วนของซูเปอร์เซนไท โดยเฉพาะวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ไม่มีบุตรหลาน อาจจะมองว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายสูง แม้ว่าจะมองในฐานะทริปล่องเรือสำราญ ก็อาจจะมีความรู้สึกว่ามันคือกิจกรรมสำหรับผู้มีฐานะ ฉันเข้าไม่ถึงมันหรอก หรือจะมองในฐานะกิจกรรมประขาสัมพันธ์คาแร็คเตอร์ซูเปอร์เซนไท ก็อาจจะมีความรู้สึกที่ว่ามันมีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรอก

ทริปล่องเรือสำราญกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มายังกรุงเทพมหานคร

ผมก็ยังติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมนี้ไปเรื่อยๆ แม้ว่าผมจะไม่สนใจที่จะเข้าร่วมเลยก็ตาม ไม่สิ ต้องเรียกว่า ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมนี้มันผ่านหน้า Facebook ผมบ่อยๆ ทั้งสถานที่ต่างๆที่ครอบคลุมเส้นทางของเรือสำราญลำนี้ ทั้งการขายบัตรเข้าร่วมกิจกรรม 100 ใบ ที่สามารถขายได้หมด แม้ว่าอาจจะใช้เวลาเยอะสักหน่อย แต่ก็ถือว่ากิจกรรมนี้ได้รับการตอบรับที่ดีเลยทีเดียว

ท่าน้ำบริเวณท่ามหาราชยามเย็น ซึ่งร้อนน้อยกว่าไฟนรกเพียงแค่นิดเดียว…

จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้รับการติดต่อให้ไปเป็นช่างภาพในทริปเรือสำราญนี้ให้กับ Youtuber ท่านหนึ่ง จึงทำให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศของทริปล่องเรือสำราญครั้งนี้ ในวันงาน ตัวผมและคณะเดินทางมายังท่ามหาราช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะขึ้นเรือ มาถึงก็ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ท่ามกลางแดดที่ร้อนมาก แม้ว่ามันจะเป็นแดดยามเย็นก็ตาม และเมื่อถึงเวลาหกนาฬิกาตามที่กำหนดการระบุ เรือสำราญลำเล็กๆ ที่สามารถจุคนได้ 100 กว่าคนก็ได้เข้ามาเทียบท่า พร้อมกับเหล่าคาแร็คเตอร์จากคิวเรนเจอร์ที่มีมาห้าตัว(จากไลน์อัพเปิดตัวครั้งแรกทั้งหมดเก้าตัว) ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหัวเรือเลยทีเดียว ประหนึ่งว่าเหล่าสูทแอคเตอร์กำลังสวมชุดมาสค็อตของเหล่าโจรสลัดหมวกฟางอยู่ เมื่อเรือเทียบท่าสนิทก็ต่อแถวขึ้นเรือ เมื่อขึ้นไปปุ๊บ ชาวคณะเห็นว่าภายในเรือแน่นขนัดไปด้วยผู้คน เลยตัดสินใจขึ้นไปบนดาดฟ้าของเรือ ซึ่งมีลำโพงตั้งอยู่แถวหัวเรือ แสดงว่ากิจกรรมจะจัดขึ้นบนดาดฟ้าไม่ใช่ด้านล่าง

พิธีกรหลักของทริปนี้…

พอออกเรือปุ๊บ ผู้คนที่เข้าร่วมทริปก็เริ่มทยอยขึ้นมาบนดาดฟ้า เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมตามกำหนดการ ซึ่งผมก็ได้เห็นว่าผู้คนที่ขึ้นเรือมาร่วมกิจกรรมล่องเรือกับซูเปอร์ฮีโร่ในราคาพันกว่าบาทนั้นมีกลุ่มคนประเภทไหนบ้าง? ซึ่งส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่มีฐานะในระดับหนึ่ง พาลูกมาหาฮีโร่ที่ชื่นชอบ และพ่อแม่ก็ชมทิวทัศน์ระหว่างล่องเรือไป(เออว่ะ… ถือว่าได้ผลประโยชน์กันทั้งสองเจน) แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นเด็กวัยรุ่นที่ชื่นชอบในคาแร็คเตอร์ของซูเปอร์เซนไท ทั้งมากันเป็นกลุ่มบ้าง เป็นคู่รักกันบ้าง กิจกรรมก็ดำเนินไป เมื่อเวลาผ่านสถานที่สำคัญอะไรก็ตาม เช่น วัด หรือห้างสรรพสินค้าชื่อดังริมน้ำ พิธีกรประจำทริปก็จะคอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเป็นระยะๆ โดยกิจกรรมแรกก็คือ การแสดงจากเหล่าคิวเรนเจอร์ทั้งห้าสี ซึ่งโชว์ก็ไม่มีอะไรมากครับ นอกจากการแสดงประกอบเพลง Kyutama Dancing คิ้วๆทามะ ทามะๆคิ้วๆ… นั่นแหละครับ อืม… ถึงมันจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ ว่าถ้าจะแสดงไลฟ์แอ็คชั่น ต่อสู้กันบนดาดฟ้าเรือสำราญที่มีพื้นที่แค่ประมาณครึ่งสนามบาสเก็ตบอล แต่ผู้เข้าร่วมทริปนั่งกระจายๆกันก็เหลือพื้นที่ด้านหน้าสำหรับทำกิจกรรมแค่ไม่กี่ตารางเมตรแล้ว มันเป็นอะไรที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้แสดง(และคนที่อยู่บนเรือ)มาก ถ้าผิดคิวขึ้นมาอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก กิจกรรมที่สองก็คือการจับ Lucky Draw เพื่อให้ผู้ร่วมทริปได้ลุ้นรับรางวัลกัน ซึ่งรางวัลก็มีตั้งแต่ของเล็กๆน้อยๆอย่างซอฟท์บี้ ที่เริ่มจะหายากแล้วสำหรับซีรีส์คิวเรนเจอร์ ครบทั้งเก้าสีตามไลน์อัพแรกเลย(แต่แจกทีละตัวนะ) ไปจนถึงรางวัลใหญ่อย่างเข็มขัดคิวเรนเจอร์ ซึ่งก็ได้รับเกียรติจากคุณธนัท  ตันอนุชิตติกุล หรือพี่นัทที่เราคุ้นหน้ากันทุกเช้าเสาร์-อาทิตย์ในช่วงยุค 2000 เนี่ยแหละ มาเป็นพิธีกรร่วมและคนจับรางวัลทั้งหมด ไม่ได้เห็นพี่นัทเป็นพิธีกรมานานแล้วนะ ตั้งแต่รายการ 50:50 เป็นต้นไป พี่นัทยังดูดีเสมอต้นเสมอปลายเลย ลุคแทบไม่แก่ขึ้น แค่ดูภูมิฐานขึ้นในฐานะที่เป็น CEO ก็เท่านั้นเอง

ห้างสรรพสินค้าดิไอคอนสยาม ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เรือสำราญแล่นผ่าน

ระหว่างที่พี่นัทจับ Lucky Draw อยู่นั้น แกก็เปรยๆมาว่า ทริปล่องเรือสำราญกับคิวเรนเจอร์ถือว่าเป็นกิจกรรมประชาสัมพันธ์คาแร็คเตอร์ที่แปลกใหม่มากในมุมมองของเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งพี่นัทแกเคลมเลยว่านี่เป็นทริปล่องเรือสำราญกับคาแร็คเตอร์ซูเปอร์เซนไทครั้งแรกในเอเชีย แล้วกิจกรรมครั้งแรกนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และก็มีแนวคิดที่จะจัดทริปล่องเรือสำราญครั้งต่อไปอีก ซึ่งไม่ใช่แค่ซูเปอร์เซนไทขบวนการถัดไปเท่านั้น แต่จะจัดทริปล่องเรือสำราญของคาแร็คเตอร์อื่นๆที่ทางการ์ตูนคลับถือลิขสิทธิ์ เช่น ดราก้อนบอล นารูโตะ โคนัน เป็นต้น (อ่า… ใจนึงก็อยากบอกให้เว้นเรื่องหลังไว้สักเรื่องเถอะ แต่อีกใจก็อยากให้มี มันอาจจะระทึกและน่าสนุกก็ได้…)

ลัคกี้ : โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรู….

การแจกรางวัลสิ้นสุดลง หลังจากที่เรือย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้งตรงเอเชียทีคไปได้สักพัก จากนี้ถ้าใครที่อยากจะถ่ายรูปกับเหล่าคาแร็คเตอร์คิวเรนเจอร์ ก็สามารถเดินไปที่ด้านหน้าของเรือตรงด้านล่าง จะมีทีมงานช่วยถ่ายรูปให้ หรือจะรับประทานอาหาร บนเรือก็มีข้าวกล่อง น้ำดื่ม และขนมขบเคี้ยวคอยให้บริการ(ผัดผักกับเห็ดทอดอร่อยดี…) จากนั้น เรือก็กลับมาเทียบท่าที่ท่ามหาราชอีกครั้ง ถือเป็นการจบทริปโดยสมบูรณ์

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเหล่าคิวเรนเจอร์ และพี่ๆนักพากย์ทั้งสาม ได้แก่ (ไล่จากซ้ายไปขวา) คุณลักขณา นาคศิริ, คุณรัตนชัย เหลืองวงศ์งาม และคุณพิพัฒน์ บุญสิทธิเลิศ ซึ่งคุณพิพัฒน์ก็เป็นคนที่ให้เสียงภาษาไทยของคาจิกิเยลโล่ด้วยนะครับ

หลังจากที่ผมได้ลองมาสัมผัสกิจกรรมนี้ บวกกับการตกผลึกเพิ่มเติมระหว่างที่กำลังเขียนบทความนี้ ผมเห็นว่าในยุคสมัยที่การละเมิดลิขสิทธิ์สามารถทำได้โดยง่ายมากๆ ผู้ถือลิขสิทธิ์ก็ต้องปรับตัวเพื่อสามารถจำหน่ายคาแร็คเตอร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาต่อไปให้ได้ ซึ่งก็มีกลยุทธ์สองอย่างที่ผู้ถือลิขสิทธิ์ทำกัน อย่างแรกก็คือ นำคอนเทนท์ไปเผยแพร่ทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งสามารถรับชมได้ง่าย สะดวก และฟรี ส่วนอีกอย่างก็คือ การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์คาแร็คเตอร์ ที่นอกเหนือไปจาก Roadshow ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงเรียนแล้ว ผู้ถือลิขสิทธิ์ยังต้องคิดรูปแบบกิจกรรมใหม่ๆให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับแฟนๆของแต่ละคาแร็คเตอร์ ซึ่งก็เป็นโจทย์ที่ยากอยู่เหมือนกันนะ เพราะนอกจากจะต้องดึงดูดให้แฟนๆมาเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้วนั้น มันต้องเป็นกิจกรรมที่แฟนๆเห็นว่ามีแต่ผู้ถือลิขสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถจัดให้พวกเขาได้ สำหรับทริปล่องเรือสำราญนี้ ผมไม่สามารถตอบในฐานะแฟนของซูเปอร์เซนไทได้ว่ามันคุ้มค่ากับเงินพันกว่าบาทที่เสียไปไหม? เพราะผมไม่ใช่แฟนซูเปอร์เซนไทขนาดนั้น แต่ผมจะตอบในฐานะที่เป็นตัวผมเองที่ชอบโทคุซัทสึละกันว่า ถ้าต้องจ่ายเงินพันกว่าบาทเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมนี้ มันคุ้มที่จะจ่ายไหม? ส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ แต่มันก็โอเคนะ แค่การล่องเรือชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยบรรยากาศสบายๆไม่แออัดแบบนี้ ผมก็ให้ราคามันเกือบหนึ่งพันแล้ว ส่วนที่เหลือก็เป็นค่าอาหาร ค่าลิขสิทธิ์คาแร็คเตอร์ ค่าอื่นๆ ก็แล้วกันครับ

ก็หวังว่าผมจะมีโอกาสได้มาร่วมกิจกรรมแบบนี้อีกนะครับ….

About Pan Yoshizumi 118 Articles
นอกจากซูเปอร์ฮีโร่จะเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบแล้ว ผมยังชอบไอดอลสาว และการท่องโลกอีกต่างหาก....