ก่อนจะเริ่มอ่านบทความนี้ บอกตรงๆ นะ ผมโคตรไม่อยากจะขึ้นต้นบทความด้วยประโยค “ถ้าพูดถึงไอดอลกรุ๊ปสาวๆ แสนคาวาอี้ ทุกคนคงจะนึกถึงวง AKB48 หรือไม่ก็ H!P กันใช่มั้ยล่ะ? และนี่คือเรื่องราวของวงไอดอลที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักมาก่อน บลาๆๆ และ บลาๆๆ…” นี่เลย เพราะผมรู้สึกว่านักเขียนหลายคนเขาน่าจะใช้กันเยอะแล้วนะเวลาจะพูดถึงวงไอดอลญี่ปุ่นสาวๆ กันอ่ะ เอาไงดีวะ… อืมมมมมมมม!!!! ขอคิดแปป… อ้อ!! นึกออกละ!!
มาสค์ไรเดอร์!! หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่าคาเมนไรเดอร์บ้าง ไอ้มดแดงบ้าง แล้วแต่ความถนัดปากของแต่ละคน แต่ก็สามารถหมายความถึงซูเปอร์ฮีโร่สวมเข็มขัด ขี่มอเตอร์ไซค์ที่ถือกำเนิดจากปลายปากกาของอ.อิชิโนะโมริ โชทาโร่ ได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ปี 1971 เป็นต้นไป เรื่องราวของมาสค์ไรเดอร์ตัวแล้วตัวเล่าก็ได้ถูกถ่ายทอดออกออกสู่สายตาประชาชนจนโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น และทั่วเอเชีย กลายเป็นแฟรนไชส์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้…
เมื่อตำนานมาสค์ไรเดอร์ได้ดำเนินมาจนถึงปีที่ 40 ทางอิชิโนะโมริโปรดัคชั่น ก็ได้คิดโปรเจกค์เฉลิมฉลองในปี 2011 ขึ้น โดยจับมือกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ดูแลเรื่องเพลงประกอบซีรีส์มาสค์ไรเดอร์มาตั้งแต่ยุคเฮเซอย่าง Avex จนโปรเจกค์นี้ก็ได้ออกมาในรูปแบบของสาวน้อย 5 คน ในชุดหนัง สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์กันคนละเส้น และเรียกตัวเองว่า “Kamen Rider GIRLS” ซึ่งประกอบไปด้วย ฮิโระคาวะ ยูริกะ(สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์ริวคิ), ยาสุดะ นาโอะ(สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์เบลด), โยชิซูมิ เอริกะ(สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์เดนโอ), นากุระ คาโอริ(สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์คิบะ) และ อิซากะ ฮิโตมิ(สวมเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์โอส)
Let’s Go : จุดเริ่มต้น
ทั้ง 5 คนเปิดตัวกันด้วยซิงเกิ้ลชุดแรกอย่าง “Let’s Go Rider Kick 2011” ซึ่งเป็นการนำเพลงเปิดของมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์แรกสุดมา Re-arrange ใหม่ให้มีความหนักแน่นตามสไตล์ของปี 2011 และเพลงนี้ได้ถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 40 ปีมาสค์ไรเดอร์อย่าง “Kamen Rider OOO, Den-O, All Riders : Let’s Go Kamen Riders” หรือชื่อภาษาไทยนั่นก็คือ “มาสค์ไรเดอร์ รวมพลังฝ่ามิติกู้โลก”
และโปรเจกค์วงไอดอลสาวสวมเข็มขัดแปลงร่างก็ไม่ได้มาแค่ร้องเพลงเฉลิมฉลองเพลงเดียวแล้วจบนะ พวกเธอยังได้รับการต่อยอดออกไปอีกมากมาย ทั้งปรากฏตัวในภาพยนตร์และซีรีส์ของมาสค์ไรเดอร์หลายต่อหลายเรื่อง เป็นนางแบบให้กับทาง Bandai Fashion สำหรับโปรโมทเสื้อผ้าในคอลเล็คชั่นที่เกี่ยวข้องกับมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ และอีกมากมาย และในส่วนของงานเพลงนั้น… หลังจากปล่อยซิงเกิ้ลแรกไปประมาณสามเดือนเศษๆ Kamen Rider GIRLS ก็ได้กลับมาปล่อยซิงเกิ้ลชุดที่สองด้วยเพลง “KAMEN RIDER V3” ดูจากชื่อคงเดาไม่ยาก ว่าเป็นการเอาเพลงเปิดของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ V3 มาร้องใหม่ และยังได้นักมวยปล้ำระดับซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่นอย่าง “ฮิโรชิ ทานาฮาชิ” มาร่วมเล่นในมิวสิควิดีโออีกด้วยนะ
และในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน ก็ได้มีการเพิ่มสมาชิกใหม่ผู้มาพร้อมกับเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่ ไอ้มดแดงตัวล่าสุดที่กำลังโลดแล่นอยู่บนจอแก้วขณะนั้น ชื่อของเธอคือ “เอ็นโด มิทสึกิ” แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ยูริกะจังก็ได้ประกาศจบการศึกษาจากวง ทำให้สาวๆ Kamen Rider GIRLS ต้องทำกิจกรรมต่อไปด้วยสมาชิก 5 คนเหมือนเดิม
ปี 2012 พวกเธอไม่ได้หยิบเพลงของโชวะไรเดอร์มาปัดฝุ่นใหม่เป็นซิงเกิ้ลหลักอีกต่อไป เดือนมีนาคม พวกเธอมาพร้อมกับซิงเกิ้ลชุดที่สาม กับเพลง “Saite” เพลงช้าซึ้งๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมิตรภาพที่ตราตรึงใจ ซึ่งถูกใช้ในฉากสำคัญของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่ด้วย นั่นก็คืองานพร็อมนั่นเอง และแน่นอนว่า คนที่ร้องเพลงนี้ในฉาก ก็ต้องหนีไม่พ้นพวกเธอทั้งห้าคนอยู่แล้ว…. และก่อนจะหมดปี วง Kamen Rider GIRLS ก็ได้เพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีกหนึ่งคน นั่นก็คือ “อากิตะ จิซาโตะ” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มดีกรีนักเรียนทุนโรงเรียนฝึกศิลปินของ Avex ผู้มาพร้อมกับเข็มขัดมาสค์ไรเดอร์วิซาร์ด พร้อมกับซิงเกิ้ลชุดที่สี่อย่าง “Last Engage” ซึ่งถูกใช้เป็นเพลงประกอบฉากต่อสู้ของมาสค์ไรเดอร์วิซาร์ดเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคราวนี้ เพลงของพวกเธอได้โผล่มาให้แฟนๆ ไรเดอร์ได้ฟังกันอย่างจุใจแน่นอน
Just the Begining : อัลบั้มแรก ออกแสดงในต่างประเทศครั้งแรก
เข้าสู่ปี 2013 ของสาวๆ ทั้งหกคน ด้วยซิงเกิ้ลชุดที่ห้าอันแสนดุเดือดเลือดพล่านอย่าง “Just the Beginning” เพลงประกอบฉากต่อสู้ของมาสค์ไรเดอร์วิซาร์ดร่างเฟลมดราก้อนสไตล์นั่นเอง และอย่างที่ชื่อเพลงได้บอกไป นี่มันแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังจากนั้น Kamen Rider GIRLS ก็ได้จัดเต็มผลงานเพลงกันแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของพวกเธออย่าง “alteration” ต่อด้วยซิงเกิ้ลชุดที่หกอย่าง “Go get’em” ตามด้วยยูนิตพิเศษที่ให้สมาชิกถอดเข็มขัดแปลงร่างแล้วหันมาสวมชุดลูกสมุนกีกี้ในชื่อ “Shocker GIRLS” พร้อมกับเพลง “SSS ~Shock Shocker Shockest~” และ สมาชิกใหม่ เพื่อต้อนรับการมาของมาสค์ไรเดอร์ไกมุ อย่าง “สุมิ โทโมมิ เจน่า” สาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ พร้อมกับซิงเกิ้ลชุดที่เจ็ด ด้วยสมาชิกเจ็ดคน อย่าง “E-X-A (Exciting x Attitude)” เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ดอกไม้นามว่า Kamen Rider GIRLS ได้บานสะพรั่งอย่างสวยสดงดงาม และเชื่อว่าแฟนๆ มาสค์ไรเดอร์ที่อาจจะไม่ได้ติดตามวงนี้อย่างลึกซึ้ง ก็คงจะติดภาพ Line-Up เจ็ดคนนี้เป็นภาพจำของวงไปแล้ว…
หลังจากที่ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่สองอย่าง “exploded” ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2014 สาวๆ ทั้งเจ็ดคนก็ได้บินลัดฟ้ามาพบกับแฟนๆ ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในงาน Thailand Comic Con ที่จัดขึ้นในกรุงเทพบ้านเรานี่เอง จากนั้น พวกเธอก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลชุดที่แปด กับเพลง “Break the Shell” และก็บินมาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยอีกครั้งในปีเดียวกัน แฟนๆ ชาวไทยเรียกได้ว่าเปรมกันถ้วนหน้าเลยทีเดียวเชียว
Movin’on : เมื่อทุกอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องก้าวต่อไป
จนกระทั่งในปี 2015 ก็ได้มีการออกอัลบั้มรวมผลงานเพลงทั้งหมดตลอดระยะเวลา 4 ปี ของพวกเธอ ในชื่อชุด “SUPER BEST” และหลังจากนั้น Line-Up ของ Kamen Rider GIRLS ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่! เริ่มจากคาโอริจัง ที่ได้เปิดตัวในฐานะนักร้องนำของวงดนตรีที่ชื่อ Chewing High!! ก่อนจะประกาศจบการศึกษาในเวลาต่อมา(ถึงกระนั้น เธอก็คนอื่นๆ ในวงก็ยังคงเป็นเพื่อนรักกันเสมอ และในคอนเสิร์ตของวง Chewing High!! ก็มีการเชิญ Kamen Rider GIRLS มาเป็นแขกรับเชิญด้วย)
ต่อมาในช่วงปลายปี ทางวงก็ได้เพิ่มสมาชิกคนใหม่ผู้ซึ่งมากล้นไปด้วยประสบการณ์ในการเป็นไอดอลเข้าไปอีกหนึ่งคน นั่นก็คือ “คุโรดะ อายะโกะ” แม้จะเปิดตัวในช่วงที่มาสค์ไรเดอร์โกสต์กำลังฉายอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้สวมเข็มขัดโกสต์ไดรเวอร์ออกสื่อเลยสักครั้งเดียว สร้างความสงสัยและแปลกใจต่อแฟนๆ เป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2016 พวกเธอทั้งเจ็ดคนก็ได้เข็นซิงเกิ้ลชุดที่เก้า ด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่หนักหน่วง และสไตล์การแต่งตัวแบบสบายๆ ไม่มีเข็มขัดไรเดอร์คล้องที่เอวอีกต่อไป ในชื่อเพลง “Next stage” และจากนั้นไม่นาน แฟนๆ ก็เป็นอันต้องช็อค เมื่อเอริกะจัง และนาโอะจัง ได้ประกาศจบการศึกษาจากวงพร้อมกัน ทำให้ฮิโตมิจังกลายเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในวง
ถึงกระนั้น เส้นทางของ Kamen Rider GIRLS ก็ยังดำเนินต่อไป ฮิโตมิจังและสมาชิกที่เหลืออีก 4 คนก็ยังคงก้าวต่อไปด้วยซิงเกิ้ลชุดที่สิบ ในชื่อ “Rush N’ Crash / Movin’on” ซึ่งมีทั้งร็อคหนักหน่วงแบบที่คุ้นเคย(Rush N’ Crash) และอิเล็กทรอนิกส์เก๋ๆ(Movin’on) แถมเพลงหลังนี้ พวกเธอยังได้บินลัดฟ้าไปถ่ายมิวสิควิดีโอกันถึงฮาวายเชียวล่ะ ต่อมา… เอ๊ะ! เหมือนจะเล่าข้ามอะไรไปอย่าง… ย้อนกลับไปก่อนที่แผ่นซิงเกิ้ลนี้จะวางขายได้ไม่นาน สาวๆ Kamen Rider GIRLS ได้มีโอกาสมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยเป็นครั้งที่สาม ในงานเปิดตัวมาสค์ไรเดอร์ไกมุที่กำลังจะฉายในบ้านเรา วันนั้นพวกเธอได้แสดงเพลงพิเศษ ซึ่งทำร่วมกับศิลปินชาวไทยอย่าง “โต๋ ศักดิ์สิทธิ์” ที่มีชื่อเพลงว่า “Just You & Me” เป็นครั้งแรก! และครั้งเดียวครับ แม้ว่าเพลงจะได้รับกระแสการตอบรับจากแฟนๆ ชาวไทยดีมากก็เถอะ แต่เพลงฉบับสตูดิโอก็ไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้ฟังกันแบบเต็มๆ เลย…
invicible : แม้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงจะโหมกระหน่ำแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงยืนหยัดอยู่
เมื่อเข้าสู่ปี 2017 มิทสึกิจังก็ได้จบการศึกษาจากวงไปอีกคน แต่ถึงกระนั้น สมาชิกอีกสี่คนที่เหลือก็ยังเข็นอัลบั้มเต็มชุดที่สามในรอบสามปีออกมาให้แฟนๆ ได้รับฟังกัน ในชื่อ “invincible” เพื่อเป็นการบอกให้แฟนๆ ไรเดอร์รับรู้ว่า พวกเธอยังคงหนังเหนียว ฆ่าไม่ตาย สมกับชื่ออัลบั้มจริงๆ ซึ่งเพลงบางส่วนก็เป็นเพลงประกอบซีรีส์มาสค์ไรเดอร์เอ็กซ์เซดนั่นแหละ จากนั้นไม่นาน พอเอ็กซ์เซดฉายในไทย สาวๆ ก็ได้ทำเพลงร่วมกับศิลปินไทยอีกครั้ง!! กับเพลง “EX-AID” ที่ได้วงร็อคสุดล้ำอย่าง “Slot Machine” มาร่วมแจมด้วย แต่คราวนี้ มีเพลงฉบับสตูดิโอให้ดาวน์โหลดมาฟังทาง itunes ของญี่ปุ่นนะจ๊ะ(เดี๋ยว? เพลงทำมาใช้ประชาสัมพันธ์ซีรีส์ในไทย แต่ไม่ขายใน itunes ไทย ขายแต่ itunes ญี่ปุ่น…. งงมั้ย?) และในปี 2018 ทั้งสี่คนก็ได้กลับมาให้แฟนๆ ชาวไทยได้หายคิดถึงอีกครั้งในเดือนธันวาคม พร้อมทำการแสดงในเมืองพัทยาถึงสองรอบ สองงานกันเลยทีเดียว
ปี 2019 ก่อนจะสิ้นสุดยุคเฮเซ ก็ถึงคิวของอายะจังที่ประกาศจบการศึกษา และวง Kamen Rider GIRLS ก็ได้เหลือเพียงแค่สามคนจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าพวกเธอจะเริ่มมีการแยกย้ายไปทำงานเดี่ยวอย่างที่ชอบ อย่างจิซาโตะจังที่ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง หรือเจน่าที่เริ่มไปได้สวยกับงานพากย์เสียง แต่เมื่อหน้าประวัติศาสตร์ของมาสค์ไรเดอร์ได้เข้าสู่ยุคเรวะ(เอาจริงๆ ทุกอย่างในญี่ปุ่นก็เข้าสู่ยุคใหม่กันหมดแหละ) สามสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนของมาสค์ไรเดอร์จะไม่คัมแบ็คก็กะไรอยู่ คราวนี้พวกเธอได้กลับมาพร้อมกับอีพีอัลบั้ม(จะนับว่าเป็นอัลบั้มชุดที่สี่ก็กะไรอยู่ เพราะไม่รู้ว่าวงนี้เขานับอีพีอัลบั้มรวมกับอัลบั้มเต็มหรือเปล่า?) ที่มีชื่อว่า “030804-01” ซึ่งออกเสียงเรียกว่า “เซโร่วัน” นั่นเอง ซึ่งในอัลบั้มก็มีถึงสามเพลงด้วยกันที่แต่งเนื้อร้องโดยจิซาโตะจังนั่นเอง ได้แก่ “Build up” เพลงประจำร่าง Genius Form ของมาสค์ไรเดอร์บิลด์, “Tsuki no Michiru Toki” เพลงประจำตัวของสึคุโยมิ จากซีรีส์มาสค์ไรเดอร์จิโอ และเพลง “Endless Journey” ที่เราได้ยินทุกครั้งเมื่อเปิดเกม Kamen Rider City Wars ในมือถือ…(เกมปิดให้บริการไปแล้วนะ)
และเมื่อเข้าสู่ปี 2020 แม้พวกเธอจะไม่มีเพลงใหม่ๆ ปล่อยออกมาในนามวงเลย(มีก็แต่อัลบั้มเดี่ยวชุดใหม่ของจิซาโตะจัง…) แต่ก็ยังมีงานแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ้าง และเพื่อเป็นการย้ำให้แฟนๆ ไรเดอร์ได้รู้ว่า ชื่อของ Kamen Rider GIRLS นั้นยังไม่เลือนหายไปไหน ทั้งสามสาวจึงได้ร่วมกันทำช่อง Youtube ในชื่อ “Kimisuma!” (ชื่อช่องเป็นภาษาญี่ปุ่นนะ) และเมื่อมาสค์ไรเดอร์ไกมุได้มีการทำตอนพิเศษฉลองครบรอบ 7 ปี เจน่าซึ่งอยู่ในฐานะอิมเมจเกิร์ลของมาสค์ไรเดอร์ไกมุ ก็ได้ปรากฏตัวในเรื่องด้วย
ในปีนี้ เส้นทางของ Kamen Rider GIRLS ก็ได้เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว แม้จะยังไม่มีเพลงใหม่ออกมา และก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะมีผลงานอะไรในช่วงฉลองครบรอบ 50 ปี มาสค์ไรเดอร์หรือไม่? แต่ทั้งสามสาวก็กำลังจะมีคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 10 ปีของวงในวันนี้(20 เมษายน 2021) ซึ่งถ้าใครมุดไปใช้แอพ TTFC ได้ ก็สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้ในเวลา 5 โมงเย็นตามเวลาประเทศไทยได้เลยครับ ส่วนอนาคตหลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่แล้วล่ะครับว่าจะจัดการกับโปรเจกค์นี้อย่างไรต่อไป จะมีการเพิ่มเติมสมาชิกหรือไม่? ต้องรอดูกันต่อไป
ถือว่าเป็นวงไอดอลอีกวงที่ผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชนไม่แพ้วงอื่นๆ เลยทีเดียว แม้ว่าพวกเธอจะมีแบรนด์ป๊อปคัลเจอร์ที่ทรงอำนาจและเอามาทำอะไรก็ขายได้อย่างมาสค์ไรเดอร์คอยตีบวกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นก็เถอะ แต่พวกเธอก็ยังต้องใช้ความพยายามพอสมควรเพื่อพิชิตใจเหล่าสาวกหน้ากากมดทั้งหลาย ผ่านผลงานต่างๆ ที่ทางผู้ใหญ่คอยป้อนให้ ถือเป็นอีกสีสันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมาสค์ไรเดอร์ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่น่ารักและสดใสมากเลยทีเดียว และในขณะเดียวกัน การเป็นสมาชิกในวงก็เป็นโอกาสที่พวกเธอได้ลองทำงานในวงการบันเทิงหลายๆ ด้าน จนสามารถต่อยอดตัวเองได้อีกด้วย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทศวรรษใหม่ของวง และเหล่าอดีตสมาชิกที่กำลังเดินตามความตั้งใจของตัวเองอยู่นะครับ โดยเพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารของ Kamen Rider GIRLS ได้ทาง Twitter เลยครับ
(และถ้าถามว่า ปัจจุบัน เหล่าอดีตสมาชิกนอกเหนือจากคาโอริจังไปทำอะไรอยู่? เท่าที่ผมเห็นใน Twitter นะ ตอนนี้เอริกะจังกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในด้านเกมไปเรียบร้อย ทางด้านมิทสึกิจังก็มีผลงานในวงการบันเทิงอยู่บ้าง ในส่วนของอายะจังก็เพิ่งประกาศอำลาวงการบันเทิงไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ในส่วนของคนอื่นๆ นั้น ไม่มีข่าวคราวเลยครับ…)